กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานว่ากรุงเทพมหานครและ 3 จังหวัดปริมณฑล คุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ทั้งนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานให้แต่ละจังหวัดแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศ และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนขอความร่วมมือประชาชนใช้รถโดยสารสาธารณะ งดเว้นการเผาขยะและเศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อป้องกันสถานการณ์มิให้รุนแรงมากขึ้น
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่าจากการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศกับกรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2562 เวลา 05.00 น. พบว่ามีจังหวัดที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมงเกินค่ามาตรฐานคือ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) เกินค่ามาตรฐาน 100 ได้แก่
กรุงเทพมหานคร (ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน, ริมถนนดินแดง เขตดินแดง, แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง)
สมุทรปราการ (ตำบลทรงคนอง อำเภอพระประแดง, ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง)
สมุทรสาคร (ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน, ริมถนนคู่ขนานพระราม 2 อำเภอเมืองสมุทรสาคร)
นครปฐม (ตำบลนครปฐม อำเภอเมืองนครปฐม)
มีค่า PM2.5 ระหว่าง 51-81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ AQI มีค่าระหว่าง 101-178 ซึ่งคุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
โดยเฉพาะตำบลนครปฐม อำเภอเมืองนครปฐม คุณภาพอากาศอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยมีค่า PM2.5 อยู่ที่ 81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ AQI มีค่า 178
ทั้งนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สนับสนุนการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศอย่างต่อเนื่อง
พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศ และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงดำเนินมาตรการควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด
อีกทั้งประชาสัมพันธ์ผลกระทบของหมอกควันต่อสุขภาพอนามัยและข้อมูลคุณภาพอากาศ ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนแก่ประชาชน ตลอดจนขอความร่วมมือประชาชนใช้รถโดยสารสาธารณะ งดเว้นการเผาขยะและเศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อป้องกันสถานการณ์มิให้รุนแรงมากขึ้น
สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองสูง ให้หลีกเลี่ยงการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน เพราะจะสูดดมฝุ่นละอองจำนวนมากเข้าสู่ร่างกายจนอาจทำให้เจ็บป่วยได้ รวมถึงใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันมิให้สูดดมฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย
ส่วนผู้ขับขี่ให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษ เพราะทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางอยู่ในระดับต่ำ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน
สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานแก้ไขปัญหาโดยด่วนต่อไป
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์