หุ้น บมจ.วอริกซ์ สปอร์ต หรือ หุ้น WARRIX เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันนี้ (21 ธันวาคม) เป็นวันแรก ราคาเปิดการซื้อขายที่ 8.05 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 27.80% หรือจากราคาจองซื้อที่ 6.30 บาท โดยในช่วง 20 นาทีแรกของการซื้อราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 8.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.90 บาท หรือ 30.20%
บมจ.วอริกซ์ สปอร์ต ประกอบธุรกิจเป็นผู้จำหน่ายเสื้อผ้าภายใต้แบรนด์ ‘วอริกซ์’ และอุปกรณ์กีฬา ได้รับสิทธิ์เป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าฟุตบอลทีมชาติไทยตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน สินค้าเสื้อผ้าของบริษัทแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ สินค้า Licensed Product และสินค้า Non-Licensed Product
โดย WARRIX เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค มูลค่าระดมทุน 1,134 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,780 ล้านบาท
WARRIX มีทุนชำระหลังเสนอขาย 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 420 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 180 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลและผู้ลงทุนสถาบันตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 135 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 27 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหารและพนักงานของบริษัท 18 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 6.30 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,134 ล้านบาท
สำหรับการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO มาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ของนักลงทุนสถาบัน (Book Building) จากช่วงราคา 6.10-6.30 บาทต่อหุ้น โดยมี บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วมกับ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)
วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วอริกซ์ สปอร์ต เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนบริษัทจะนำไปใช้ในการลงทุนโครงการก่อสร้างศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา และสำนักงานบริเวณถนนพระราม 9 ตลอดจนเป็นเงินทุนหมุนเวียน
โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท
WARRIX มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือกลุ่มวิศัลย์ ถือหุ้น 64.32%
บทความที่เกี่ยวข้อง
- “นี่เป็นราคาที่เราพึงพอใจทั้ง 2 ฝ่าย” เจ้าของสุกี้ตี๋น้อยกล่าวหลัง Jaymart ควักเงิน 1.2 พันล้านบาทเข้าถือหุ้น 30%
- ADVANC ทุ่ม 32,420 ล้านบาท เข้าซื้อกิจการ 3BB จาก JAS
- กางแผน ‘โอ้กะจู๋’ หลังมี OR เป็นแบ็กอัป เดินหน้าขยายสาขาเพิ่มเป็น 60 แห่ง ขายผักสดและบุก CLMV ก่อน IPO ในปี 2567