วอร์เรน บัฟเฟตต์ ทุ่มซื้อหุ้นครั้งใหญ่รอบหลายปี ไตรมาสแรกอัดเงิน 4.1 หมื่นล้าน

วอร์เรน บัฟเฟตต์ กลับมาพร้อมกับการซื้อครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี เฉพาะไตรมาสแรกทุ่มซื้อหุ้นกว่า 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เงินสดในมือ Berkshire Hathaway ลงเหลือ 1.06 แสนล้านดอลลาร์ ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2018

หลังจากบ่นเป็นเวลาหลายปีเรื่องมูลค่าตลาดที่สูงเกินไปขัดขวางความพยายามในการซื้อหุ้น ล่าสุดบริษัท Berkshire Hathaway Inc. ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็กลับมาเข้าสู่สนามการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นอีกครั้ง

โดย Berkshire Hathaway ได้ใช้เงินสดเข้าซื้อสุทธิ 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกปี 2022 ซึ่งรวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของ Chevron Corp ทำให้การลงทุนกลายเป็นการถือครองหุ้นสามัญ 4 อันดับแรกของ Berkshire

บัฟเฟตต์ยังเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ Berkshire ถือหุ้น Activision Blizzard เพิ่มขึ้น 9.5% ซึ่งเป็นการตัดสินใจเข้าเดิมพันในธุรกิจผู้ผลิตวิดีโอเกมท่ามกลางการถูกซื้อกิจการโดย Microsoft Corp

โดยบัฟเฟตต์ได้ตอบกับผู้ถือหุ้นว่า มันเป็นการตัดสินใจที่ง่ายมากในการหันไปลงทุนในบริษัทชาติตะวันตก หลังจากที่ได้อ่านรายงานนักวิเคราะห์ และได้รับการติดต่อจากผู้บริหารระดับสูงโดยตรงที่เขียนอีเมลถึงเขา

“ตลาดมักทำสิ่งที่บ้าบอ และในบางครั้ง Berkshire ก็มีโอกาสได้ทำบางสิ่งที่แตกต่างออกไป นั่นไม่ใช่เพราะเราฉลาด…แต่เป็นเพราะเรามีเหตุผลเพียงพอที่จะตัดสินใจทำ” บัฟเฟตต์กล่าว

ทั้งนี้ Berkshire ไม่ได้เป็นผู้ซื้อสุทธิรายใหญ่ในตลาดหุ้นมาหลายไตรมาสติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 2008 ดังนั้นการเข้าลงทุนในหุ้นเพิ่มขึ้นของเขาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จึงทำให้เกิดคำถามมากมายจากผู้ถือหุ้นในวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งการประชุมประจำปีจัดขึ้นแบบพบหน้ากันเป็นครั้งแต่นับตั้งแต่ปี 2019

การประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนี้จัดขึ้นในบ้านเกิดของบัฟเฟตต์ที่โอมาฮา รัฐเนบราสกา ซึ่งกินเวลาหลายชั่วโมง โดยทั้งบัฟเฟตต์ และหุ้นส่วนธุรกิจของเขา ชาร์ลี มังเกอร์ ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับตลาด อาวุธนิวเคลียร์ และแม้แต่ Bitcoin

นอกจากนี้ยังได้เชิญเจ้าหน้าที่คนสำคัญ 2 คนคือ เกร็ก อาเบล และ อาจิต เจน ขึ้นมาร่วมตอบคำถามเกี่ยวกับทางรถไฟ การโจมตีทางไซเบอร์ และบริษัทประกันรถยนต์ โดยปีที่แล้ว เกร็ก อาเบล ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าจะได้สืบทอดตำแหน่ง CEO ของ Berkshire ต่อจากบัฟเฟตต์ หากเขาตัดสินใจที่จะก้าวลงจากตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ บัฟเฟตต์ในวัย 91 ปี และมังเกอร์ในวัย 98 ปียังคงเป็นผู้ให้มุมมองต่อผู้ถือหุ้นเป็นหลัก และทั้งคู่ก็ยังไม่ส่งสัญญาณว่าจะเกษียณและก้าวลงจากตำแหน่งสูงสุดของ Berkshire ในเร็วๆ นี้ แต่ทั้งคู่ได้เริ่มลดบทบาทอื่นๆ ของตนลงเล็กน้อยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยบัฟเฟตต์ประกาศว่าการประมูลอาหารกลางวันเพื่อการกุศลในปีนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายหลังจากทำมาตลอด 2 ทศวรรษ และมังเกอร์ได้สละตำแหน่งประธานของเขาที่ Daily Journal Corp

บัฟเฟตต์และทีมมีปัญหาในการหาวิธีนำเงินสดของ Berkshire ไปใช้กับสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ส่วนหนึ่งจากการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ซื้อ เช่น คู่แข่งอย่างบริษัทที่เป็นไพรเวท อิควิตี้ รวมถึงการประเมินมูลค่าตลาดว่าสูงเกินไป อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของ Berkshire กลับมารุกหนักด้านการลงทุนอีกครั้งในช่วงไตรมาสแรก ปี 2022 โดย Berkshire เพิ่มการถือหุ้น Occidental Petroleum Corp และบรรลุข้อตกลงในการซื้อ Alleghany Corp ด้วยเงินสด 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะปิดดีลได้ในไตรมาส 4 นอกจากนั้นยังเข้าลงทุนใน Chevron และ Activision เพิ่มเข้ามาด้วย

“เรามีปัญหามากมายในการค้นหาแนวคิดใหม่ๆ ซึ่งเราพบว่ายากที่จะมองข้าม โดยข้อตกลงใดๆ ของกลุ่มบริษัทต้องมีขนาดใหญ่” บัฟเฟตต์กล่าวในที่ประชุมที่เมืองโอมาฮา รัฐเนบราสกา

การถือครองหุ้นสามัญจำนวนมหาศาลของ Berkshire ใน Occidental เป็นหนึ่งในการซื้อที่มีการเปิดเผยข้อมูลมากที่สุดในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา และเป็นดีลที่มีมูลค่าสูงกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ Berkshire ได้ลงทุน หลังจากที่เข้าลงทุนในผู้ผลิตน้ำมันเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งบัฟเฟตต์กล่าวเพิ่มว่า การลงทุนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่เขาใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์อ่านการนำเสนอจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วิกกี ฮอลลับ

“สิ่งที่วิกกี ฮอลลับ พูดนั้นไม่สมเหตุสมผลเลย และผมตัดสินใจว่ามันเป็นธุรกิจที่ดีที่จะนำเงินของ Berkshire มาลงทุน และ 2 สัปดาห์ต่อมา เรามีบริษัทอยู่ 14%” บัฟเฟตต์กล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีผู้ถือหุ้นถามถึงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนว่ารุนแรงขึ้นและนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์หรือไม่ ทั้งบัฟเฟตต์และอาจิต เจน ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องจากบัฟเฟตต์มาหลายทศวรรษ ต่างไม่สามารถให้คำตอบได้ในทันที โดยเจนยอมรับว่าเขาขาดความสามารถในการประเมินความเสี่ยงในธุรกิจประกันของ Berkshire

แต่ท้ายที่สุดบัฟเฟตต์ได้กล่าวเสริมว่า มีความเสี่ยงที่ต่ำมากๆ ต่อการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ แม้ว่าโลกจะเข้าใกล้ในช่วงวิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบาในปี 1962

“โลกกำลังผันเปลี่ยนทุกวัน Berkshire เองก็ไม่รู้คำตอบ” บัฟเฟตต์กล่าว

บัฟเฟตต์ยังกล่าวอีกว่า Berkshire ได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นว่า บริษัทและวัฒนธรรมทางธุรกิจของบริษัทจะดำรงสืบต่อไป แม้ว่าเขาและมังเกอร์จะจากไปแล้ว

เงินสดลดลงเหลือ 1.06 แสนล้านดอลลาร์ ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2018

การเพิ่มสัดส่วนการซื้อหุ้น ทำให้เงินสดของ Berkshire ณ สิ้นไตรมาสแรก เหลืออยู่ที่ 1.06 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2018

ในขณะที่ Berkshire เร่งเครื่องซื้อหุ้น บริษัทได้ชะลอการซื้อหุ้นคืนในช่วงไตรมาสดังกล่าวด้วยการซื้อคืนหุ้นเพียง 3.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 1ในปี 2020 และลดลงจากการซื้อคืนที่ 6.9 พันล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2021

ทั้งนี้ บัฟเฟตต์พึ่งพาการซื้อคืนมากขึ้น เพราะเป็นวิธีหนึ่งในการนำเงินมาทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีการเจรจาต่อรองและการแข่งขันสูง โดยหุ้น Class A ของ Berkshire มีราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 17% ในช่วงไตรมาสแรก ปี 2022

กลุ่มบริษัทมีกำไรอยู่ที่ 7.04 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกปีนี้ เพิ่มขึ้นเพียง 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจหลายสิบแห่งสามารถทนต่อการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานที่เกิดจากตัวแปรของโควิดได้ รวมถึงสามารถรับมือกับสภาวการณ์สงครามที่ผลักดันให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น และปัจจัยเรื่องเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นได้ แต่ธุรกิจประกันภัยของก็ปรับตัวลดลง

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP