‘Berkshire Hathaway’ ของปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ โชว์กำไรไตรมาส 4 ปี 2021 เพิ่มขึ้น 4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 10 เปอร์เซ็นต์ ชี้เป็นผลจาก 4 ธุรกิจหลักที่เข้าไปลงทุน
สถานีโทรทัศน์ CNN รายงานความเคลื่อนไหวของ Berkshire Hathaway บริษัทการลงทุนสัญชาติสหรัฐฯ ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ก่อตั้งและมหาเศรษฐีนักลงทุนรุ่นเก๋า ซึ่งจะมีอายุครบ 92 ปีในเดือนสิงหาคมปีนี้ ที่ล่าสุดออกมาเปิดเผยรายได้และผลกำไรประจำไตรมาส 4 ปี 2021 พบว่าผลกำไรของบริษัทคิดเป็นมูลค่าเกือบ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรขยับเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าตัวสำหรับผลกำไรตลอดทั้งปี
ในส่วนของรายได้จากการดำเนินงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดกำไรของบริษัทที่บัฟเฟตต์ชื่นชอบและให้ความสำคัญมากกว่า พบว่าพุ่งทะยานขึ้นมา 45 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 7.3 พันล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นถึง 25 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบรายได้จากการดำเนินงานตลอดทั้งปี 2021 ของ Berkshire คิดเป็นมูลค่า 2.75 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ผลกำไรของบริษัทยังเพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทตัดสินใจซื้อคืนหุ้นจากผู้ถือหุ้น คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 6.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งช่วยเพิ่มกำไรต่อหุ้นอีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ เนื้อความในจดหมายที่เขียนถึงบรรดาผู้ถือหุ้นบริษัทโดยตรง บัฟเฟตต์อธิบายว่า ความสำเร็จของบริษัทในปี 2021 มีสาเหตุหลักมาจากยักษ์ใหญ่ 4 ส่วนของบริษัท ประกอบด้วย 1. ธุรกิจประกันภัยของบริษัท 2. ทางรถไฟ Burlington Northern Santa Fe 3. ธุรกิจพลังงานขนาดใหญ่ และ 4. สัดส่วนการถือหุ้นเกือบ 5.6 เปอร์เซ็นต์ของ Berkshire ใน Apple
โดยขณะนี้ Apple นับเป็นหุ้นบริษัทที่ทาง Berkshire ถือครองในสัดส่วนที่มากที่สุด และหุ้นได้รับผลตอบแทนรวม (รวมเงินปันผล) ที่ 35 เปอร์เซ็นต์ ในปีที่แล้ว ซึ่งบัฟเฟตต์ถึงกับยกให้ ทิม คุก ซีอีโอของ Apple เป็นสุดยอดซีอีโอ
บัฟเฟตต์กล่าวว่า บรรดานักลงทุนอาจแปลกใจที่ได้เรียนรู้ว่า Berkshire พึ่งพาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ เพื่อความสำเร็จมากเพียงใด โดยนอกจากบริษัทข้างต้นแล้ว ทาง Berkshire ยังเป็นเจ้าของแบตเตอรี่ Duracell, สี Benjamin Moore, บริษัทรับสร้างบ้าน Clayton และบริษัท Shaw เป็นต้น
บัฟเฟตต์ระบุในจดหมายว่า หลายคนมองว่า Berkshire เป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่มีขนาดใหญ่และค่อนข้างแตกต่าง แต่ในความเป็นจริง Berkshire เป็นเจ้าของและดำเนินการสินทรัพย์ใน ‘โครงสร้างพื้นฐาน’ แทบทั้งหมดในสหรัฐฯ ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดจัดอยู่ในงบดุลของบริษัท ซึ่งรวมถึงที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ มากกว่าที่จะเป็นบริษัทอื่นในสหรัฐฯ
ขณะเดียวกันบัฟเฟตต์ยังใช้โอกาสนี้แสดงตัวว่าบริษัทเสียภาษีตามกฎหมายอย่างถูกต้อง โดยปีที่ผ่านมา Berkshire เสียภาษีคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 3.3 พันล้านดอลลาร์ ครอบคลุมตั้งแต่ภาษีรัฐบาลกลาง ภาษีรัฐบาลท้องถิ่น และภาษีค่าขายต่างชาติ
ปัจจุบัน Berkshire ได้รับการยกย่องชื่นชมอย่างล้นหลามในตลาด โดยขณะนี้บริษัท Berkshire มีมูลค่าเกือบ 7.15 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่มูลค่าหุ้นของบริษัทก็ขยับพุ่งขึ้นมาอยู่ไม่ไกลจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปีที่ผ่านมาหุ้นของ Berkshire เพิ่มขึ้นถึง 7 เปอร์เซ็นต์
ความสำเร็จของ Berkshire ยังปลุกกระแสการลงทุนในหุ้นกลุ่มมูลค่า (Value Stock) ของบรรดานักลงทุนรายย่อยในตลาด
สำหรับส่วนตัวบัฟเฟตต์ก็สามารถโกยรายได้มหาศาลเข้ากระเป๋าเช่นกัน โดย CNN รายงานอ้างอิงตัวเลขจาก Forbes ที่ระบุว่า มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของบัฟเฟตต์ในขณะนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.15 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้เจ้าตัวกลายบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในอันดับที่ 8 ของโลก
ขณะเดียวกัน Berkshire ยังใช้โอกาสนี้ประกาศกำหนดการประชุมประจำปีที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 เมษายน โดยปีนี้จะเป็นปีแรกที่จัดแบบออฟไลน์ หลังจากจัดผ่านออนไลน์ต่อเนื่องมา 2 ปี กระนั้นก็จะมีการถ่ายทอดสดผ่านเว็บแคสต์ของ CNBC และ Yahoo Finance เหมือนเช่นการประชุม 2 ครั้งก่อนหน้านี้
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
