ชุดข้อมูลใหม่แสดงให้เห็นว่าภาคอสังหาริมทรัพย์จีนยังคงประสบกับความยากลำบาก แม้ว่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมาจะมีสัญญาณฟื้นตัวให้เห็นบ้างก็ตาม โดยยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสองเริ่มชะลอตัวอีกครั้ง ด้าน S&P Global จับตา Developer จะสามารถหาเงินสดจากยอดขายได้เพียงพอหรือไม่
รายงาน China Beige Book ประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งอ้างอิงจากการสำรวจของบริษัทวิจัย 1,085 แห่ง ระหว่างวันที่ 18-25 พฤษภาคมระบุว่า สถานการณ์ในภาคอสังหาของจีนเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือจากเดือนเมษายน โดยราคาในตลาดที่อยู่อาศัยเร่งตัวขึ้น แต่ยอดขายกลับชะลอตัว
นอกจากนี้ ในภาคอสังหาเชิงพาณิชย์ (Commercial Property) ก็พบว่าการทำธุรกรรมและราคาอ่อนแออย่างหนัก ขณะที่ภาคก่อสร้างที่อ่อนแอและมาตรการทางการคลังที่ลดลงก็ส่งผลให้รายได้ของผู้ผลิตทองแดงในเดือนพฤษภาคมหดตัวด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ผ่อนคลายแรงกดดันต่อบริษัทพัฒนาอสังหา (Developer) หลังจากการเข้าปราบปราม (Crackdown) การก่อหนี้ของภาคส่วนนี้เพื่อรักษาเสถียรภาพ เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2020
ทั้งนี้ ตามการประมาณการของ Moody’s ระบุว่า ภาคอสังหาและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมีสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 4 ของเศรษฐกิจจีน
ติงลู่ (Ting Lu) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของ Nomura ระบุในรายงานเมื่อวันจันทร์ (29 พฤษภาคม) ว่ายอดขายบ้านใหม่ในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 28 พฤษภาคม เพิ่มขึ้น 11.8% จากปีที่แล้ว ชะลอตัวลงอย่างมากจากการขยายตัว 24.8% ในสัปดาห์ก่อนหน้า โดยปริมาณการขายของทั้งสองสัปดาห์ดังกล่าวยังต่ำกว่าในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดการระบาดใหญ่ รายงานยังระบุว่า ยอดขายที่ลดลงส่วนใหญ่อยู่ในเมืองใหญ่ที่สุดของจีน
นักลงทุนหุ้นกู้เริ่มถอนการลงทุนอีกรอบ
นักลงทุนในบริษัทพัฒนาอสังหาในจีนเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับตลาดมากขึ้นเช่นกัน โดยดัชนี Markit iBoxx สำหรับหุ้นกู้บริษัทอสังหาที่ให้ผลตอบแทนสูงของจีนปรับตัวลดลงกลับมาใกล้จุดที่ซื้อขายในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ปักกิ่งประกาศสนับสนุนภาคส่วนดังกล่าวผ่านแผนที่เรียกว่า ‘16-point plan’
โดยทีมนักวิเคราะห์ของ S&P Global Ratings กล่าวในรายงานเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมว่า แผนดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่การสนับสนุนหนี้ของบริษัทพัฒนาอสังหาต่างๆ ในระดับโครงการเท่านั้น ซึ่งหมายความว่ายังมีความไม่แน่นอนว่าบริษัทพัฒนาอสังหาต่างๆ จะสามารถชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยคืนนักลงทุนหุ้นกู้ได้หรือไม่
S&P Global Ratings ระบุอีกว่า พวกเขากำลังดูว่าบริษัท Developer จะสามารถสร้างเงินสดจากการขายอสังหาได้เพียงพอหรือไม่
สำหรับทั้งปีนี้ S&P คาดว่ายอดขายของบริษัทพัฒนาอสังหาในจีนจะลดลงประมาณ 3-5% ซึ่งดีขึ้นเล็กน้อยจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ลดลง 5-8%
ตลาดอสังหามือสองเริ่มสะดุด
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Fitch Ratings ยังระบุว่า กิจกรรมทางธุรกิจในตลาดบ้านมือสองเริ่มชะลอตัวตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยเห็นจากจำนวนบ้านจดทะเบียนลดลง ราคาเสนอขายที่ลดลง และธุรกรรมที่น้อยลง
“การชะลอตัวนี้เกิดขึ้นหลังจากการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 1 ซึ่งบ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นของผู้ซื้อบ้านยังคงเปราะบาง ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและแนวโน้มการจ้างงานที่อ่อนแอ” Fitch Ratings ระบุ
นักวิเคราะห์ของ Fitch Ratings กล่าวอีกว่า “ความเชื่อมั่นของตลาดบ้านหลังมือสองมักถูกมองว่าเป็นอีกมาตรวัดสำคัญของภาคอสังหา เนื่องจากราคาและอุปทานไม่อยู่ภายใต้การแทรกแซงของหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งแตกต่างจากตลาดบ้านใหม่”
นอกจากนี้ ยอดขายบ้านมือสองยังมีอิทธิพลอย่างมากต่อราคาบ้านใหม่ โดยประเมินว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของบ้านที่ขายในเมืองใหญ่ที่สุดของจีนอยู่ในตลาดบ้านมือสอง
อ้างอิง: