คำถามว่าธุรกิจโรงภาพยนตร์จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนในวันที่ Video Streaming Platform กำลังเบ่งบานได้เกิดขึ้นในใจของใครหลายคนอีกครั้ง หลังจากที่ Warner Bros ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจภาพยนตร์ของสหรัฐอเมริกาประกาศว่า ภาพยนตร์เรื่องใหม่ทุกเรื่องในปี 2021 จะถูกเข้าฉายพร้อมกันบน HBO Max
รายชื่อภาพยนตร์ประกอบไปด้วย The Little Things, Judas and the Black Messiah, Tom & Jerry, Godzilla vs. Kong, Mortal Kombat, Those Who Wish Me Dead, The Conjuring: The Devil Made Me Do It, In The Heights, Space Jam: A New Legacy, The Suicide Squad, Reminiscence, Malignant, Dune, The Many Saints of Newark, King Richard, Cry Macho, และ Matrix 4
โมเดลธุรกิจดังกล่าวยังมีข้อจำกัดบางประการ แม้ภาพยนตร์จะถูกสตรีมบน HBO Max พร้อมกันกับวันที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ทั้งในรูปแบบของ 4K Ultra HD และ HDR แต่การสตรีมดังกล่าวจะอยู่เพียง 1 เดือน ก่อนออกจากแพลตฟอร์มในช่วงเวลาหนึ่ง โดย Warner Bros มีแผนที่จะทดสอบโมเดลดังกล่าวเป็นระยะเวลา 1 ปีด้วยกัน
“ไม่มีใครต้องการให้ภาพยนตร์กลับมาฉายบนจอใหญ่มากกว่าที่เราต้องการ” Ann Sarnoff ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของของ Warner Bros “เราทราบดีว่าเนื้อหาใหม่เป็นส่วนสำคัญของโรงภาพยนตร์ แต่เราต้องสร้างสมดุลให้กับความเป็นจริงที่ว่าโรงภาพยนตร์ส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะดำเนินการได้โดยลดความจุลงตลอดปี 2021”
หลังจากที่ Warner Bros ได้เปิดเผยทิศทางนี้ออกมา Reuters รายงานว่า หุ้นของ AMC Entertainment ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์รายใหญ่ที่สุดของโลกลดลงเกือบ 16% และ Cinemark คู่แข่งลดลงประมาณ 22% ซึ่งซีอีโอของ AMC ได้ออกแถลงการณ์ต้านในทันที โดยระบุว่า Warner Bros กำลังสละผลกำไรจากโรงภาพยนตร์เพื่อเพิ่มยอดให้กับ HBO Max
สำหรับคอหนัง การรับชมที่บ้านอาจมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการเดินทางไปโรงภาพยนตร์ HBO Max เรียกเก็บเงิน 15 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 452 บาทต่อเดือน ในขณะที่ข้อมูลของ National Association of Theatre Owners ระบุว่า ราคาเฉลี่ยของตั๋วภาพยนตร์ 2 ใบในสหรัฐอเมริกาสูงถึง 18.32 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 552 บาท นอกจากนี้ HBO Max ยังลดลงราคาลงอีก 22% หากสมัครแพ็กเกจ 6 เดือน เฉลี่ยแล้วจะเหลือเดือนละ 12 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 360 บาทเท่านั้น
ในปี 2019 ผู้คนโดยเฉลี่ยเข้าชมในโรงภาพยนตร์น้อยกว่า 4 ครั้งตามข้อมูลของ Bloomberg ซึ่งต่ำเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2002 ในบรรดาภาพยนตร์ที่มีผู้คนออกไปดู มีภาพยนตร์อยู่ราว 25 เรื่องที่ทำรายได้สูงสุดคิดเป็น 50% ของ Box Office
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีเพียง Warner Bros เท่านั้นที่ให้ความสำคัญกับ Video Streaming ก่อนหน้านี้ Disney ได้นำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Mulan เข้าฉายใน Disney+ ขณะที่ Universal Pictures ได้บรรลุข้อตกลงกับ Cinemark และ AMC เพื่อฉายภาพยนตร์ที่จะเปิดให้ชมภายในบ้านได้ทันที 17 วันหลังจากเข้าฉายในโรงภาพยนตร์
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: