บรรยากาศตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อวานนี้ (11 พฤษภาคม) ยังคงต้องเผชิญกับแรงเทขายที่เกิดขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุด นับตั้งแต่ยุคฟองสบู่ดอตคอมระเบิดในปี 2000 โดยดัชนี Nasdaq 100 ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาดัชนี Nasdaq ลดลงไปแล้วกว่า 27%
บรรดานักวิเคราะห์ประเมินว่าปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เงินเฟ้อมีสิทธิ์ขยับเพิ่มขึ้นอีกเริ่มมีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เตรียมยกระดับนโยบายการเงินให้เข้มงวดมากขึ้น ทำให้แนวโน้มการเติบโตของหุ้นในระยะยาวเป็นไปได้ยากมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันสถานีโทรทัศน์ CNN รายงานว่า ภาวะเทขายที่ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวร่วงลงทั้งกระดานนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำมูลค่าตลาดหายไปแล้วมากกว่า 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยหุ้น Blue Chip ในดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลงไปแล้วเกือบ 18% นับตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือนธันวาคมที่ผ่าน ขณะที่ดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones ตั้งแต่ต้นปีปรับตัวลดลงแล้วกว่า 13%
ส่วนดัชนี Nasdaq ซึ่งครอบคลุมหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ดูจะเป็นดัชนีที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดในปีนี้ เพราะปรับตัวลดลงไปแล้ว 27% ทำให้ดัชนีดังกล่าวเข้าสู่ภาวะตลาดหมีเรียบร้อย โดยมูลค่าตามราคาตลาดของดัชนี S&P 500 ที่ลดลงเกือบ 3 ล้านล้านดอลลาร์ก็มาจากหุ้นบริษัทเทคโนโลยี
ทั้งนี้ หุ้นของเหล่าบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในตลาดอย่าง Apple (AAPL), Microsoft (MSFT), Amazon (AMZN), Alphabet บริษัทแม่ของ Google (GOOGL), Meta Platforms (FB) ของ Facebook และ Tesla (TSLA) ของอีลอน มัสก์ ล้วนเป็นสีแดงเข้ม Netflix (NFLX) ลดลงมากกว่า 70% เป็นผลงานที่แย่ที่สุดของดัชนี S&P 500 ในปีนี้
นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดหุ้นที่ดิ่งลงอย่างรวดเร็วถือเป็นสัญญาณเตือนภัยที่ส่งตรงถึงนักลงทุน ท่ามกลางความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจกำลังสูญเสียแรงขับเคลื่อนที่จะช่วยให้สหรัฐฯ สามารถฟื้นตัวจากผลกระทบของวิกฤตไวรัสโควิดระบาด
ข้อมูลจากบริษัทวิจัย Bespoke Investment Group พบว่า ขณะนี้ดัชนี Nasdaq ร่วงลงมากกว่า 20% ในช่วง 30 วันซื้อขายที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้มีการลดลงของดัชนี Nasdaq 11 ครั้ง ซึ่งในจำนวนนั้น 9 ครั้ง ‘เกี่ยวข้องกับภาวะถดถอย’
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าหุ้นในกลุ่มมีมต่างพลิกฟื้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ในแดนบวกได้โดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นของ GameStop (GME), AMC (AMC), Bed Bath & Beyond (BBBY) และ Beyond Meat (BYND) กระนั้นนักวิเคราะห์ประเมินว่า เบื้องต้นอาจเกี่ยวข้องนักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์ Short Sell ซึ่งบีบให้นักลงทุนเข้ามาซื้อระยะสั้นเพื่อเก็งกำไรและป้องกันการขาดทุนเพิ่มเติม
อ้างอิง:
- https://www.aljazeera.com/economy/2022/5/12/bbmegacapstockssell-off-at-fastest-rate-since-dotcom-bust-of-2000
- https://edition.cnn.com/2022/05/12/investing/stocks-bear-market/index.html
- https://edition.cnn.com/2022/05/12/investing/gamestop-amc-meme-stocks/index.html
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP