ในยุคที่การท่องเที่ยวไทยกำลังเฟื่องฟู VRANDA (วีรันดา) ผู้นำด้านธุรกิจไลฟ์สไตล์ระดับลักชัวรีไม่รอช้าที่จะขยายอาณาจักรสู่ ‘ไข่มุกอันดามัน’ ด้วยการเปิดตัวโครงการคู่แฝดสุดหรู ประกอบด้วยโรงแรมระดับ 5 ดาว และโครงการที่พักอาศัยสุดเอ็กซ์คลูซีฟ มูลค่ารวมกว่า 2,470 ล้านบาท บนทำเลระดับพรีเมียมย่านพันวา-อ่าวยน
ตลอดระยะเวลา 20 ปี VRANDA สร้างชื่อในฐานะผู้นำธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมียม ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นผู้สร้างสรรค์โรงแรม รีสอร์ต ที่พักอาศัย และธุรกิจไลฟ์สไตล์ ที่โดดเด่นด้านการออกแบบและการบริการ
ปัจจุบันมีพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่ง ประกอบด้วยโรงแรมและรีสอร์ต 6 แห่งในจังหวัดท่องเที่ยวชั้นนำของไทย เช่น กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ หัวหิน ชะอำ และสมุย รวมกว่า 681 ห้อง และกำลังจะมีโรงแรมและรีสอร์ตเพิ่มเป็น 7 แห่งภายในปีนี้
ในส่วนของกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ VRANDA มุ่งเน้นพัฒนาโครงการอาคารชุดพักอาศัยประเภท Low Rise และรูปแบบ Pool Villa โดยเลือกพัฒนาโครงการในพื้นที่ติดกับโรงแรมและรีสอร์ต เพื่อมอบบริการหลังการขายระดับพรีเมียมแก่ผู้พักอาศัย ปัจจุบันมี 5 โครงการได้แก่ วีรันดา ไฮ เรสซิเดนซ์ เชียงใหม่, วีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยา, วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน, วีรันดา พูลวิลล่า หัวหิน ชะอำ และ วีรันดา วิลล่า แอนด์ สวีท ภูเก็ต
ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2024 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีรายได้รวม 1,159 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน EBITDA อยู่ที่ 278 ล้านบาท เติบโต 27% และมีกำไรสุทธิ 42 ล้านบาท โดยธุรกิจโรงแรมซึ่งเป็นธุรกิจหลักมีสัดส่วนรายได้ 75% ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีสัดส่วน 20% และรายได้อื่นๆ อีก 5%
การเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้ได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งจากภูมิภาคอาหรับ เอเชียตะวันออก และยุโรป ส่งผลให้โรงแรมในเครือ เช่น SO/ Bangkok, Veranda Collection Samui – Rocky’s Boutique Resort และ Veranda Resort Pattaya Na Jomtien – MGallery มีอัตราการเข้าพักปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ล่าสุด VRANDA เดินหน้ารุกตลาดภูเก็ตด้วยการเปิดตัว ‘Veranda Resort Phuket, Autograph Collection’ โรงแรมระดับ 5 ดาว 159 ห้อง มูลค่า 1,600 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ โดยจับมือกับแมริออท อินเตอร์เนชันแนล บริหารงานภายใต้แบรนด์ระดับพรีเมียม ‘ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น’ ซึ่งจะช่วยขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพจากยุโรป อเมริกา และเอเชีย
ควบคู่กันนั้น บริษัทยังเปิดตัว ‘Veranda Villas & Suites Phuket’ โครงการที่พักอาศัยสุดเอ็กซ์คลูซีฟ มูลค่า 870 ล้านบาท นำเสนอที่พักสุดหรู 17 ยูนิต แบ่งเป็นวิลล่า 6 หลัง และคอนโด 11 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 24-174.6 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์บนเนินเขาเขียวขจี พร้อมวิวทะเลอันดามันแบบพาโนรามา
โดดเด่นด้วยการผสมผสานเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมเมืองเก่าภูเก็ตเข้ากับดีไซน์ร่วมสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ 5 ดาวครบครัน
ทำเลที่ตั้งของโครงการถือเป็นจุดขายสำคัญ โดยทำเลพันวา อ่าวยนเป็นที่ตั้งของโรงแรมและรีสอร์ตระดับลักชัวรีชั้นนำ เช่น V Villas Phuket – MGallery และ Sri Panwa รวมถึงเป็นจุดจอดเรือยอชต์ยอดนิยมแห่งหนึ่งของภูเก็ต นอกจากนี้ยังใช้เวลาเดินทางเพียง 20 นาทีถึงตัวเมืองภูเก็ต
VRANDA คาดการณ์ว่าโครงการทั้งสองจะสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2025 โดยธุรกิจโรงแรมจะสร้างรายได้ราว 360 ล้านบาท คิดเป็น 20% ของรายได้โรงแรมทั้งหมด ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะสร้างรายได้ประมาณ 560 ล้านบาท เติบโต 80% จากปีก่อน
นอกจากนี้ VRANDA ยังเปิดส่วนต่อขยายโรงแรม Veranda Collection Samui – Rocky’s Boutique Resort อีก 20 ห้อง บนโลเคชันที่ดีที่สุดของเกาะสมุย ซึ่งจะทำให้โรงแรมที่เกาะสมุยมีห้องพักให้บริการรวมเป็น 70 ห้อง เปิดให้บริการเมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม วีรันดา รีสอร์ท ในปี 2568 พร้อมเดินเครื่องเต็มกำลังเพื่อรองรับตลาดท่องเที่ยวที่เติบโต พร้อมมอบประสบการณ์การพักผ่อนระดับเวิลด์คลาสให้กับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากทั่วโลก