ศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ที่เพิ่งปิดฉากลง กลายเป็นอีกหนึ่งหลักฐานชัดเจนว่า ประเทศไทยกำลังถูกจับตามองในฐานะแลนด์มาร์กหลักของการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลยุคใหม่
แม้จำนวนผู้ชมในแต่ละแมตช์อาจไม่เต็มความจุสนามทุกนัด เมื่อรวมกับรอบแบ่งกลุ่มที่กระจายไป 4 จัหวัดทั่วไทย แต่บรรยากาศในเกมระดับโลกที่มีแฟนล้นหลามทั้งคนไทยและต่างชาติที่เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ นับว่าเป็นสัญญาณบวกอย่างยิ่ง ยืนยันว่ากระแสวอลเลย์บอลยังคงร้อนแรงในสังคมไทย
ด้านผลงานทีมชาติ แม้ทีมไทยจะปิดทัวร์นาเมนต์ด้วยอันดับ 13 ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามที่หวัง แต่ในแง่ของ ‘การเป็นเจ้าภาพ’ ไทยได้รับคำชื่นชมจากทั้งแฟนและผู้จัด โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับสนามแข่งขันระดับตำนานทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Maracanãzinho (บราซิล), National Indoor Stadium (จีน), Sinan Erdem Dome (ตุรกี), College Park Center (สหรัฐฯ) หรือ Atlas Arena (โปแลนด์)
อีกปัจจัยสำคัญคือการเปิด AVC House ที่ทำการถาวรของสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย (AVC) ในประเทศไทย ตอกย้ำบทบาทของไทยในฐานะศูนย์กลางลูกยางแห่งเอเชีย ทั้งด้านกีฬาอาชีพ การศึกษา การท่องเที่ยว และการพัฒนาสังคม
ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วง 2-3 ปีหลัง ไทยถูกเลือกให้เป็นเจ้าภาพมากขึ้นเรื่อยๆ และในศึก VNL 2026 (ปีหน้า) ก็มีโอกาสสูงที่ไทยจะได้รับหน้าที่จัดอีกครั้ง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า ประเทศไทยกำลังเป็นจุดศูนย์กลางใหม่ของโลกวอลเลย์บอลยุคใหม่