วันนี้ (10 ตุลาคม) ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ชี้ว่า เหตุระเบิดสะพานเคิร์ช สะพานสายหลักที่เชื่อมไครเมียและรัสเซียเข้าไว้ด้วยกัน เป็นการก่อการร้ายโดยฝั่งยูเครน ที่ตั้งใจจะทำลายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอย่างมากของรัสเซีย
ผู้นำรัสเซียระบุ “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งนี้เป็นการก่อการร้าย ที่มุ่งจะทำลายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของรัสเซีย โดยผู้วางแผน ผู้ลงมือก่อเหตุ และผู้ได้รับประโยชน์ คือหน่วยความมั่นคงของยูเครน”
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- สะพานเชื่อมรัสเซีย-ไครเมียสำคัญอย่างไร ใครอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิด
- ชมคลิปสั้น: นาทีระเบิด! สะพานเชื่อมรัสเซีย-ไครเมียไฟลุกโชน
จากเหตุระเบิดเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้โครงสร้างสะพานบางส่วนพังเสียหาย โดยเฉพาะเส้นทางสัญจรของรถยนต์ ทำให้พบการจราจรติดขัดเป็นบางช่วง ทั้งยังส่งผลกระทบต่อระบบโลจิสติกส์ของรัสเซียอีกด้วย ซึ่งมักจะใช้เส้นทางหลักนี้ขนส่งสินค้าและเคลื่อนย้ายกำลังพลเข้าไปยังแหลมไครเมีย โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย อยู่ใกล้กับรถบรรทุกคันหนึ่งที่เกิดไฟลุกขึ้นและนำไปสู่การระเบิดรุนแรงขึ้นในที่สุด
เบื้องต้นตรวจสอบพบว่า รถบรรทุกดังกล่าวจดทะเบียนทางตอนใต้ของรัสเซีย และเดินทางผ่านหลายประเทศในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นบัลแกเรีย จอร์เจีย อาร์เมเนีย นอร์ทออสซีเชียและดินแดนครัสโนดาร์ของรัสเซีย โดยทางการได้สืบสวนเพิ่มเติมแล้ว ซึ่งทางฝั่งยูเครนยังไม่ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าเหตุระเบิดดังกล่าวตนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแต่อย่างใด
ทางด้าน มิคาอิโล โปโดลยัก เจ้าหน้าที่ระดับสูงและที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า “มีรัฐก่อการร้ายเพียงรัฐเดียวที่นี่ และทั่วทั้งโลกทราบดีว่าคือใคร คือที่ไหน
“ปูตินกำลังกล่าวหาว่ายูเครนก่อการร้าย? ดูเหมือนรัสเซียจะดูถูกกันมากจนเกินไป”
ขณะที่ผู้นำของยูเครนชี้ว่า “วันนี้ไม่ใช่วันที่เลวร้าย และแสงแดดก็สาดส่องไปทั่วแผ่นดินของเรา แต่น่าเสียดายที่ไครเมียมีเมฆมาก ทั้งที่สภาพอากาศก็ดูอบอุ่น”
ทางการรัสเซียได้กลับมาเปิดให้บริการสะพานดังกล่าวบางส่วนแล้ว เป็นสะพานที่ยาวที่สุดเส้นหนึ่งในยุโรป ยาวถึง 19 กิโลเมตร เปิดให้ใช้บริการครั้งแรกในปี 2018 ภายหลังจากที่รัสเซียประกาศผนวกรวมไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2014
ภาพ: Sergei Bobylyov / Sputnik / AFP
อ้างอิง: