เราอยู่ในยุคที่สมาร์ทโฟนเครื่องเดียวทำได้ทุกอย่าง เป็นเครื่องมือสื่อสาร ห้องประชุมเคลื่อนที่ ธนาคาร โรงภาพยนตร์พกพา หรือแม้แต่รีโมตของอุปกรณ์ IoT ผู้ใช้งานอย่างเราๆ อาจมองว่าความล้ำของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ถูกขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย แต่แบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนมองมุมกลับ ผู้บริโภคต่างหากคือผู้ขับเคลื่อนทิศทางของสมาร์ทโฟนแห่งอนาคตให้กับพวกเขา โดยเฉพาะนวัตกรรมกล้องบนสมาร์ทโฟน
ใครจะมีไฟล์ภาพจากสมาร์ทโฟนยุคแรกๆ ลองเอามาเทียบภาพจากสมาร์ทโฟนตอนนี้ แล้วจะเข้าใจทันทีว่าผู้บริโภคไม่ได้ต้องการแค่สมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปได้ แต่สิ่งที่อยู่ในมือตอนนี้ ต้องมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์รอบด้าน เล่มเกมได้ลื่นไหลหรือไม่ ส่งไฟล์ขนาดใหญ่เร็วไหม ลำโพงเสียงกระหึ่มหรือยัง และเลนส์กล้องเจ๋งพอที่จะไม่พกกล้องเลยหรือเปล่า
พฤติกรรมที่เห็นได้ชัดในยุคนี้คือ ผู้บริโภคใช้กล้องสมาร์ทโฟนแทนกล้องจริงกันมากขึ้น ไม่ว่าใครก็อยากแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองทุกที่ทุกเวลาผ่านโซเชียล ซึ่งเครื่องมือที่ทำหน้าที่นั้นได้อย่างดีก็มีเพียงกล้องสมาร์ทโฟน นั่นหมายความว่า เกมนี้แบรนด์ไหนมีกล้องที่ถ่ายรูปสวย แบรนด์นั้นย่อมได้เปรียบ
หากเอ่ยถึงแบรนด์ที่โดดเด่นเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมกล้องสมาร์ทโฟน vivo คือแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนากล้องอย่างจริงจังมาโดยตลอด ตั้งแต่การจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาทั่วโลก โดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนา R&D กว่า 10 แห่งทั่วโลก วัตถุประสงค์ก็เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่โดดเด่น และตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบถ่ายภาพผ่านสมาร์ทโฟน รวมถึงแก้ Pain Point ที่พบบนกล้องสมาร์ทโฟน อาทิ นวัตกรรม Eye Autofocus Selfie ใน vivo V20 Pro 5G ที่ช่วยโฟกัสดวงตาของผู้ถ่าย จึงจับภาพได้อย่างคมชัดไม่ว่าจะโพสท่าไหน หรือเทคโนโลยีที่พลิกโฉมกล้องสมาร์ทโฟนทันทีที่เปิดตัวในรุ่น vivo X50 Pro 5G นั่นก็คือ เทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหว Gimbal Camera System รุ่นแรกของโลก สามารถครอบคลุมเฟรมภาพได้มากกว่า OIS ถึง 300% ส่งผลให้การถ่ายวิดีโอในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเดิน วิ่ง หรือทำกิจกรรมต่างๆ ภาพวิดีโอที่ออกมาจะมีความนิ่งราวกับใช้ไม้กันสั่น
ถึงจะทำได้ดีและผู้บริโภคที่รักการถ่ายภาพให้การตอบรับที่ดีมาโดยตลอด แต่ vivo ไม่หยุดพัฒนาเพื่อมอบประสิทธิภาพที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน เป็นที่มาของการจับมือกับ ZEISS แบรนด์ยักษ์ใหญ่ของวงการเลนส์จากเยอรมนี จัดตั้ง vivo ZEISS Imaging Lab วัตถุประสงค์ก็เพื่อพัฒนาทางวิศวกรรมร่วมกัน (Co-Engineer) มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมสำหรับเทคโนโลยีการถ่ายภาพมือถือ
จำนวนผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน vivo กว่า 400 ล้านคนทั่วโลก ทำให้ vivo เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค และมองเห็นความต้องการที่เปลี่ยนไปในอนาคต เมื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปผนวกเข้ากับความเชี่ยวชาญของ ZEISS เหมือนเป็นการเสริมทัพให้แกร่งยิ่งขึ้นภายใต้ความร่วมมือ และพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้เพื่อจะนำไปใช้กับมือถือระดับเรือธงของ vivo ต่อไป เพราะทั้งสองแบรนด์มีเป้าหมายเดียวกันคือ ต้องการให้ผู้บริโภคทั่วโลกมีประสบการณ์การถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนระดับมืออาชีพ
สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่เกิดขึ้นหลังจากความร่วมมือครั้งนี้คือ vivo X60 Series 5G ชูจุดเด่นของ ZEISS ด้วยการนำเลนส์แบบ Biotar มาใช้งานในโหมดถ่ายภาพบุคคล ทำให้ได้ภาพละลายหลังที่มีเอกลักษณ์ พร้อมผสานนวัตกรรมเอกสิทธิ์ของ vivo ด้วยการอัปเกรดระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 2.0 ที่นิ่งกว่าเดิมด้วย Micro Gimbal พร้อมรูรับแสงที่กว้างขึ้น ช่วยกันภาพสั่นไหวได้ถึง 4 แกน
สปาร์ก ไน รองประธานอาวุโสและผู้บริหารฝ่ายการตลาด vivo กล่าวว่า สมาร์ทโฟนได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญในไลฟ์สไตล์ของผู้คน โดยเฉพาะการเป็นตัวช่วยบันทึกช่วงเวลาแห่งความสุขในชีวิต ทำให้การถ่ายภาพบนมือถือกลายเป็นส่วนหนึ่งในประสบการณ์การใช้งาน การร่วมมือกับ ZEISS จะทำให้ vivo ส่งมอบประสบการณ์การถ่ายภาพระดับมืออาชีพบนสมาร์ทโฟ vivo ให้แก่ผู้บริโภคในระดับราคาที่ใครก็เป็นเจ้าของได้
vivo X70 Series 5G สมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมเทคโนโลยีกล้องที่ยังล้ำได้อีก!
นอกจากเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น การจับมือกันครั้งนี้ ส่งผลดีให้ทั้งสองแบรนด์สามารถพัฒนาโปรดักต์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว เมื่อปลายปีที่แล้วเพิ่งปล่อยหมัดที่คิดว่าเด็ดอย่าง vivo X60 Series 5G ไม่ทันไรก็ปล่อยหมัดเด็ดยิ่งกว่า vivo X70 Series 5G สมาร์ทโฟนพรีเมียมที่จะสร้างประสบการณ์การถ่ายภาพผ่านสมาร์ทโฟนที่ดีได้อีก!
vivo X70 Series 5G ที่จะเปิดตัวในไทยมีด้วยกัน 2 รุ่น คือ X70 Pro 5G และ X70 5G มาพร้อมไฮไลต์ที่คนรักการถ่ายภาพเฝ้ารอ ทั้ง X70 Pro 5G และ X70 5G มาพร้อม ZEISS T* Coating เคลือบหน้าเลนส์แบบเฉพาะของ ZEISS ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับที่ใช้บนเลนส์กล้องระดับโปร มาช่วยปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่ายให้สวยและสดใส ให้ค่าสีแม่นยำยิ่งขึ้น เทคโนโลยี Pure Night View หนึ่งในประโยชน์ของการเคลือบ ZEISS T* Coating ช่วยลดการเกิด Ghosting และ Stray Light หรือแสงสะท้อนเลนส์กล้อง จึงช่วยให้การถ่ายภายในทุกสถานการณ์ ทุกสภาพแสงกลายเป็นเรื่องง่าย เก็บทุกรายละเอียดได้เหมือนกับใช้กล้องโปร โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนและที่แสงน้อย
ยิ่งไปกว่านั้น vivo X70 Series 5G ยังอัปเกรดระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 3.0 เมื่อทำงานร่วมกับ Ultra-Sensing Gimbal Camera เซ็นเซอร์ Sony IMX766V จึงช่วยให้โฟกัสภาพได้รวดเร็วและแม่นยำ ภาพสวยคมชัดแม้ถ่ายในที่แสงน้อยหรือเวลากลางคืน ในขณะที่โหมดวิดีโอก็ให้เทคโนโลยี VIS 5-Axis Ultra Stable Video แบบ 5 แกน ป้องกันภาพสั่นไหวในมุมมองที่กว้างขึ้น แม้จะถ่ายตอนกลางคืนก็หมดกังวลเรื่องภาพสั่นไหวไม่คมชัด เพราะมี Gimbal แบบ Ultra-Sensing และอัลกอริทึมขั้นสูง เพิ่มความคมชัดและเพิ่มความสว่างให้วิดีโอ
โหมด Portrait ของสมาร์ทโฟน vivo ทุกรุ่น จะเรียกว่าเป็นท่าไม้ตายที่เอาชนะใจคนที่ชอบเซลฟีและสายพอร์เทรตเลยก็ได้ ยิ่งพอจับมือกับ ZIESS ก็จัดเต็มใส่สุดยอดเลนส์ถ่ายภาพบุคคลในตำนานอย่าง Distagon, Planar, Sonnar และ Biotar รวมถึงเอฟเฟกต์เลนส์ ZEISS สุดคลาสสิกอื่นๆ มาไว้ใน X70 5G และ X70 Pro 5G สามารถสร้างภาพ Bokeh และ Facula ในระดับลึกได้สวยสมจริง ไม่ว่าใครก็เป็นช่างภาพมืออาชีพได้
สเปกที่สองรุ่นให้มาเหมือนกันก็เช่น ระบบปฏิบัติการ Android 11 ชิปเซ็ต Dimensity 1200 vivo 5G Platform ประสิทธิภาพการประมวลผลมาตรฐาน UFS 3.1 จึงคัดลอกไฟล์ HD ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งเทคโนโลยี Extended RAM ดึงพื้นที่เก็บข้อมูล ROM เพิ่มไปยังพื้นที่ RAM ได้สูงสุด 4GB จึงตอบสนองได้ราบรื่นขึ้น รวมถึงอัตราการรีเฟรชสูงถึง 120Hz รองรับเทคโนโลยี HDR10+ เพิ่มประสิทธิภาพให้หน้าจอตอบสนองเร็วขึ้น
ความต่างอยู่ที่ X70 5G กล้องหลังเลนส์ ZEISS 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 40MP, 12MP และ 12MP และกล้องหน้า 32MP แบตเตอรี่ขนาด 4400 mAh รองรับชาร์จไว 44W
ส่วน X70 Pro 5G แบตเตอรี่จุกว่านิดหน่อย 4450 mAh รองรับชาร์จไว 44W เหมือนกัน แต่เพิ่มกล้องหลังเลนส์ ZEISS เป็น 4 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก 50MP, 12MP, 12MP และ 8MP ส่วนกล้องหน้า 32MP เช่นกัน
สิ่งที่สะดุดตาอีกเรื่องคือการดีไซน์ตำแหน่งกล้องหลังแบบ Cloud Valley ที่ไม่เหมือนใคร ฝาหลังใช้เทคโนโลยี Fluorite AG นอกจากจะให้ความรู้สึกหรูหรา หยิบจับถนัดมือ ยังไม่ทำให้เกิดรอยนิ้วมือบนตัวเครื่องอีกต่างหาก X70 5G และ X70 Pro 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Cosmic Black และ Aurora Dawn สามารถเป็นเจ้าของ vivo X70Pro 5G ได้ในราคาเพียง 27,999 บาท ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.vivo.com/th
แต่สำหรับคนที่เคยสัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพเหนือระดับจาก vivo รุ่นก่อนๆ ก็ดี หรือประทับใจกับคุณภาพภาพจากเลนส์ ZEISS ก็ตาม และถ้าเป็นเจ้าของ vivo X60 Series 5G อยู่แล้ว เตือนไว้ก่อน Series นี้มีหวั่นไหวแน่นอน