หลังยืดเยื้อยาวนานมาพักใหญ่ ด้วยเงื่อนไขคำสั่ง คสช. และปัจจัยทั้งภายนอกและภายใน ทำให้พรรคเพื่อไทยอยู่ในสถานะพรรคการเมืองที่ ‘ไร้หัว’ มาอย่างยาวนาน และถ้านับตั้งแต่การมีรัฐประหารของ คสช. จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ คือหัวหน้าพรรคคนสุดท้าย แต่เพราะพิษการเมืองที่ร้อนแรง ทำให้ต้องลี้ภัยไปยังต่างประเทศจนถึงเวลานี้
หลัง คสช. ปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมบางอย่างได้ ทุกสายตาล้วนโฟกัสไปที่เพื่อไทย เพราะต้องเฟ้นหา ‘หัว’ ใหม่ หลายชื่อถูกโยนไว้บนหน้าสื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมานั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค อาทิ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, ชัชชาติ สิทธิพันธุ์, จาตุรนต์ ฉายแสง, สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และปานปรีย์ พหิทธานุกร เป็นต้น
ใต้ความอลเวงในรอบหลายสัปดาห์ ในที่สุดวันที่ 28 ตุลาคม 2561 ความชัดเจนจากที่ประชุมพรรคเพื่อไทยกำลังจะเกิดขึ้น เมื่อมีกระแสข่าวว่าจะมีการเคาะให้ พล.ต.ท. วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคคนเดิม ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ อย่างเป็นทางการ และมีรายงานด้วยว่า กรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ จะเป็นคนเดิม มีเปลี่ยนแปลงบ้างในบางรายชื่อ
ส่วนรายชื่อที่ถูกชูขึ้นเป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรค จะถูกดันขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกฯ แทน เพราะไม่จำเป็นต้องนั่งในตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคแต่อย่างใด
เช้าวันนี้ แกนนำพรรคมากันครบ บรรยากาศคึกคัก ไม่ต่างจากการประชุมครั้งก่อน อาจเป็นเพราะรู้อยู่แล้วว่าใครเป็นใครในวันนี้
แต่ที่น่าจับตาคือ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ก่อนหน้านี้ได้มายืนยันสถานะความเป็นสมาชิกพรรคแล้ว วันนี้ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าสื่อมวลชน ณ ที่ทำการพรรค ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
สื่อรุมถามชัชชาติถึงความเป็นไปได้ในการทำงานหรือมีตำแหน่งในพรรค ชัชชาติ บอกว่า ยังไม่พร้อม เพราะยังนั่งซีอีโอบริษัทเอกชน แถมงงกับข่าวที่มีชื่อตัวเองเป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่ก็ยังยืนยันที่จะทำงานอยู่กับพรรคเพื่อไทย
ในช่วงการประชุมพรรค มีการจัดที่นั่งให้ สุดารัตน์ ชัชชาติ และจาตุรนต์ นั่งไล่ระดับกันจากซ้ายไปขวา แถวที่นั่งตรงกลาง สื่อรุมเก็บภาพ นักข่าวรุมโฟกัส ภาษากาย เราเห็น 3 คน ยิ้มแย้ม ชูสองนิ้ว ยกนิ้วโป้ง การันตีความพร้อม
ภาพพรรคเพื่อไทยวันนี้จะชัดขึ้นเป็นทางการในเชิงกฎหมาย แต่ในแง่มุมทางการเมืองยังไม่ชัดเจนมากนัก ต้องรอให้มีปัจจัยไฟเขียวกว่านี้ จึงจะสามารถซูมเข้าไปเห็นรายละเอียดของภาพได้อย่างทะลุทะลวงมากขึ้น
