กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตยและเครือข่ายนักกิจกรรม ได้ยื่นหนังสือต่อ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ให้ตรวจสอบกรณีการเสียชีวิตของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา
นิธิกัล ชาญพิเศษ ตัวแทนกลุ่มธรรมศาสตร์ฯ ระบุว่า กรณีการเสียชีวิตของน้องเมยไม่ใช่กรณีแรกนับจากปี 2554 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีทหารและนักเรียนเตรียมทหารเสียชีวิตในระหว่างการฝึกถึง 8 นาย แต่กลับไม่เคยมีกรณีไหนถูกทำให้กระจ่างหรือแก้ไขอย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังมองว่าการลงโทษดังกล่าวเป็นการกระทำที่เกินเลย ไม่ใช่การกระทำที่สร้างระเบียบวินัย แต่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ขณะที่นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชน เป็นผู้รับหนังสือพร้อมระบุว่า จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและส่งข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในการประชุมของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนครั้งต่อไปจะมีการหยิบยกกรณีน้องเมยเข้าที่ประชุม โดยเบื้องต้นได้มีการรวบรวมข้อมูลไว้แล้ว
และหากในอนาคตเกิดกรณีละเมิดสิทธิในค่ายทหารหรือโรงเรียนเตรียมทหารอีก คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนจะทำการตรวจสอบและส่งรายงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการตาม พ.ร.บ. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่ประกาศใช้และให้อำนาจในการตรวจสอบเต็มที่
ซึ่งกรรมการสิทธิมนุษยชนไม่ได้เป็นองค์กรในกระบวนการยุติธรรม แต่มีอำนาจแค่ตรวจสอบและทำรายงานเพื่อนำเอกสารในส่วนนั้นไปเป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลต่อไป
ด้านความเคลื่อนไหวของครอบครัวน้องเมย หลังจากเมื่อวานนี้ (26 พ.ย.) ได้ออกมาแถลงข่าวเปิดเผยผลชันสูตรรอบแรกของสถาบันพยาธิวิทยา ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า ซึ่งพบว่าที่ตับและม้ามมีเลือดคั่งเล็กน้อย
ส่วนกรณีกระดูกซี่โครงซี่ที่ 4 ด้านขวาหัก ครอบครัวไม่ติดใจแล้ว เนื่องจากทราบแน่ชัดแล้วว่ามีการทำ CPR น้องเมยนานถึง 4 ชั่วโมงระหว่างรอครอบครัวเดินทางจากจังหวัดชลบุรีไปนครนายก
แต่สิ่งที่ครอบครัวยังติดใจอยู่คือกรณีพบเลือดคั่งที่ตับและม้าม ซึ่งแพทย์ศัลยกรรมอุบัติเหตุได้ยืนยันกับทางครอบครัวว่า แม้การทำ CPR จะยาวนานถึง 4 ชั่วโมงก็ไม่น่าจะกระทบถึงม้ามและตับ
โดย สุพิชา ตัญกาญจน์ หรือเมี่ยง พี่สาวของน้องเมยกล่าวว่า อาจจะไม่เข้าไปร่วมสังเกตการณ์การผ่าพิสูจน์อวัยวะน้องเมย เพราะทราบมาว่าขณะนี้ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตั้งทีมแพทย์ที่จะผ่าพิสูจน์อวัยวะแล้ว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่จากหลายๆ ฝ่ายร่วมด้วย จึงไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปดู
ซึ่งหลังการผ่าพิสูจน์เสร็จแล้ว ผลการผ่าพิสูจน์จะออกในอีก 7 วัน ซึ่งทางครอบครัวจะรอฟังผลว่าการเสียชีวิตของน้องเมยเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อ ต้องรอฟังผลการชันสูตรก่อน
