ท่ามกลางวิถีชีวิตยุคใหม่ที่ผู้คนต้องพึ่งพาการทำงานบนหน้าจอดิจิทัลมากขึ้น ส่งผลให้ปัญหาสายตาผิดปกติกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ใครหลายคนต้องเผชิญ องค์การอนามัยโลกระบุในรายงาน World Report on Vision 2022 ว่าปัจจุบันมีประชากรโลกถึง 2,200 ล้านคนที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น
โดย 1,000 ล้านคนเป็นความผิดปกติที่ยังสามารถป้องกันหรือแก้ไขได้ และคาดการณ์ว่าในปี 2050 จะมีคนราว 50% ของประชากรโลก หรือราว 3,500 ล้านคน ประสบปัญหาสายตาสั้น ซึ่งแน่นอนว่าการมองเห็นที่ไม่ชัดเจนไม่เพียงส่งผลต่อคุณภาพชีวิต แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่ตามมาอีกด้วย
นายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต เปิดเผยว่า วงการเลสิกทั่วโลกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสถาบันวิจัย Market Research Future ระบุว่า มูลค่าตลาดนี้อยู่ที่ 2,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 2,640 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 ไปเป็น 4,080 ล้านดอลลาร์ในปี 2032 คิดเป็นอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี (CAGR) 5.60%
เหตุผลสำคัญที่อุตสาหกรรมนี้เติบโตได้ดี เป็นผลมาจากเทคโนโลยียุคใหม่ที่ก้าวหน้าและความเชื่อมั่นของผู้คนที่มีต่อความปลอดภัยและประสิทธิผลของการทำเลสิกที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่ ‘เลสิก’ จะกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับการรักษาสายตาในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะแก้ไขปัญหาการมองเห็นได้แล้ว ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งพาแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์อีกต่อไป
ด้วยเล็งเห็นโอกาสทางการตลาดและต้องการยกระดับบริการผ่าตัดเลสิกให้ดียิ่งขึ้น โรงพยาบาลวิมุตจึงได้นำเข้าเทคโนโลยี FEMTO LDV Z8 จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาใช้ที่ศูนย์เลสิก ซึ่งเป็นการผ่าตัดผ่านเลเซอร์แบบไร้ใบมีดที่มีความแม่นยำสูง สามารถช่วยลดภาวะแทรกซ้อนและระยะเวลาพักฟื้น ทำให้ผู้ป่วยมีการมองเห็นที่ดีขึ้นได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยเหมาะสำหรับการแก้ไขสายตาสั้น สายตาเอียง และสายตายาว
นายแพทย์สมบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รพ.วิมุต เดินหน้าเปิดศูนย์เฉพาะทางอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อการรักษาโรคเฉพาะทางที่มีประสิทธิภาพ ครบวงจร และได้มาตรฐานในระดับสากล ซึ่งศูนย์เลสิกก็เป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของ รพ.วิมุต ในการนำเสนอบริการดูแลสุขภาพดวงตาแบบเต็มรูปแบบ และคาดว่าหลังจากนำเทคโนโลยี FEMTO LDV Z8 มาใช้ จะทำให้มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 20% ภายในระยะเวลา 1 ปี
จากข้อมูลและทิศทางการเติบโตของตลาดศัลยกรรมเลสิกทั้งในและต่างประเทศ จึงเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการด้านการแพทย์ โดยเฉพาะผู้ให้บริการที่มีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและเทคโนโลยีทันสมัย ที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วยได้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การศึกษาและให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับการรักษาสายตาก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้าใจและตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยอย่างแท้จริง