สำหรับใครที่ฝันอยากย้ายไปใช้ชีวิตต่างประเทศ แต่กังวลเรื่องค่าครองชีพสูง เวียดนามอาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะผลสำรวจ Expat Insider 2024 ของ InterNations พบว่า เวียดนามเป็นประเทศที่ค่าครองชีพถูกที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติ และรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตที่สะดวกสบาย เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน โดยเป็นอันดับ 1 จาก 53 ประเทศ
แม้ว่าเวียดนามจะอยู่อันดับที่ 40 ในด้านคุณภาพชีวิต อันดับที่ 29 ในด้านสิ่งจำเป็นสำหรับชาวต่างชาติ เช่น ชีวิตดิจิทัล ที่อยู่อาศัย และภาษา และอันดับที่ 14 ในด้านการทำงานในต่างประเทศ แต่ก็ยังคงเป็นประเทศที่น่าสนใจสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการย้ายไปใช้ชีวิต
InterNations ได้สำรวจชาวต่างชาติกว่า 12,000 คนทั่วโลกใน 174 ดินแดน เพื่อจัดอันดับ Personal Finance Index โดยพิจารณาจากความพึงพอใจใน 3 ด้าน ได้แก่ ค่าครองชีพทั่วไป ความพึงพอใจในสถานการณ์ทางการเงิน และรายได้ครัวเรือนที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตที่สะดวกสบาย
นอกจากเวียดนามแล้ว ยังมีอีก 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ติดอันดับ 10 ประเทศที่ค่าครองชีพถูกที่สุด ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย โดยเฉพาะเรื่องที่อยู่อาศัย ซึ่งประเทศไทยติดอันดับ 1, เวียดนามอันดับ 2, ฟิลิปปินส์อันดับ 5 และอินโดนีเซียอันดับ 8
Kathrin Chudoba ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ InterNations กล่าวว่า “ที่อยู่อาศัยเป็นข้อดีอย่างมากในประเทศไทย, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ชาวต่างชาติส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นเรื่องง่ายที่จะหาที่อยู่อาศัย และพวกเขามีความสุขกับราคาที่ไม่แพง”
จากผลสำรวจ ชาวต่างชาติ 86% (ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่อยู่ในระดับ 40%) ที่อาศัยอยู่ในเวียดนาม พึงพอใจกับค่าครองชีพ และ 65% ของผู้ตอบแบบสอบถามในประเทศกล่าวว่า พวกเขาพอใจกับสถานการณ์ทางการเงินของตนเอง เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 54%
ไม่ใช่เพียงแค่ค่าครองชีพที่ต่ำ ชาวต่างชาติยังมีแนวโน้มที่จะได้รับเงินเดือนที่สูงขึ้นในเวียดนาม โดยสูงเกือบ 2 เท่าของค่าเฉลี่ยทั่วโลก ซึ่งคิดเป็นตัวเลขรายได้ต่อปี 150,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.4 ล้านบาท) หรือมากกว่า
นอกจากนี้ ความพึงพอใจในงานโดยรวมยังอยู่ในระดับสูงมากในหมู่ชาวต่างชาติในเวียดนาม โดยเวียดนามขยับจากอันดับที่ 24 เมื่อปีที่แล้ว มาอยู่อันดับที่ 3 ในปี 2024
โดยทั่วไปแล้ว “ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานมีมากกว่าความก้าวหน้าในอาชีพ” ในเวียดนาม โดยมีชาวต่างชาติน้อยกว่าครึ่ง (46%) ที่ทำงานเต็มเวลา เทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 57% ประมาณ 1 ใน 5 ของชาวต่างชาติ (21%) ทำงานพาร์ตไทม์ และประมาณ 18% เป็นผู้เกษียณอายุ
ชาวต่างชาติชาวอังกฤษรายหนึ่งกล่าวว่า “ชีวิตที่นี่ปราศจากความเครียดสำหรับฉัน มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยอดเยี่ยมจากชีวิตการทำงานของฉัน ซึ่งเคยใช้พลังงานมากและวุ่นวาย”
นอกจากการวัดความพึงพอใจของชาวต่างชาติเกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคลแล้ว การศึกษา Expat Insider ของ InterNations ยังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดโดยรวมสำหรับชาวต่างชาติทั่วโลก
รายการที่กว้างขึ้นนี้สำรวจว่าชาวต่างชาติรู้สึกอย่างไรกับแง่มุมอื่นๆ ของชีวิตในต่างประเทศ โดยอิงจาก 5 ดัชนี: ความสุขโดยทั่วไป, คุณภาพชีวิต, ความสะดวกในการตั้งถิ่นฐาน, การทำงานในต่างประเทศ และดัชนี ‘สิ่งจำเป็นสำหรับชาวต่างชาติ’ ซึ่งอิงตามการบริหาร, ที่อยู่อาศัย, ชีวิตดิจิทัล และภาษา
จาก 53 จุดหมายปลายทางทั่วโลก มี 4 ประเทศในเอเชียที่ติด 10 อันดับแรกในปีนี้ ได้แก่ อินโดนีเซีย (อันดับ 3), ไทย (อันดับ 6), เวียดนาม (อันดับ 8) และฟิลิปปินส์ (อันดับ 9)
ภาพ: Hien Phung Thu / Shutterstock
อ้างอิง: