ทางการเวียดนามเพิ่งลงบรรลุข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป (EU-Vietnam Free Trade Agreement: EVFTA) ซึ่งจะทำให้เวียดนามกลายเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนแห่งใหม่ของธุรกิจที่ต้องการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน โดยเวียดนามกลายเป็นประเทศที่ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อจากสิงคโปร์ที่ได้ลงนามการค้าเสรี
ข้อตกลงนี้จะเริ่มบังคับใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป และเมื่อข้อตกลงมีผลบังคับใช้ 71% ของการส่งออกจากเวียดนามไปยังสหภาพยุโรปจะปลอดภาษี และ 65% ของการส่งออกจากสหภาพยุโรปไปยังเวียดนามจะปลอดภาษีเช่นกัน
เขตการค้าเสรีนี้เป็นผลดีอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและรองเท้าของเวียดนาม ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 20% ของการส่งออกทั้งหมด โดยเวียดนามถือเป็นประเทศผู้ส่งออกเสื้อผ้าที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากจีนและบังกลาเทศ
จุดนี้จะทำให้บริษัทสิ่งทอของเวียดนามสามารถเจาะเข้าสู่ตลาดสหภาพยุโรปได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นผลดีต่อบริษัทอื่นๆ ที่มีฐานการผลิตอยู่ในเวียดนาม เช่น ยักษ์ฟาสต์แฟชั่นจากแดนซามูไรอย่าง Fast Retailing ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Uniqlo นอกจากอุตสาหรรมสิ่งทอแล้ว ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และเครื่องจักรต่างก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่พยายามเจาะตลาดยุโรปเช่นกัน
เวียดนามตั้งความหวังไว้สูงมากกับเขตการค้าเสรีกับสหภาพยุโรปในครั้งนี้ กระทรวงแผนงานและการลงทุนเวียดนามคาดว่า รายได้จากการส่งออกของเวียดนามไปยังสหภาพยุโรปจะเพิ่มขึ้น 42.7% ในปี 2025 และ 44.37% ในปี 2030 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่ยังไม่มีข้อตกลง ขณะที่ World Bank คาดการณ์ว่า ข้อตกลงการค้าเสรีจะช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของเวียดนามขึ้น 2.4% และเพิ่มการส่งออก 12% ภายในปี 2030
ด้าน ทราน เตียนอันห์ (Tran Tuan Anh) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยลดความยากจนในเวียดนาม
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: