จะปังหรือจะพัง! เมื่อ Victoria’s Secret แบรนด์ชุดชั้นใน เริ่มเจอปัญหายอดขายร่วง หลังสลัดภาพความเซ็กซี่ออกไป แล้วเปลี่ยนมาเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับรูปร่างที่หลากหลายแทน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Victoria’s Secret เริ่มปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจใหม่ จากชุดชั้นในที่เน้นความเซ็กซี่ เปลี่ยนมาเป็นแบรนด์ที่ฟังผู้หญิงมากขึ้น และให้ความสำคัญกับความหลากหลาย
หลังจากที่ก่อนหน้านี้แบรนด์ได้คว้าตัว Megan Rapinoe กัปตันฟุตบอลหญิงทีมชาติสหรัฐฯ และเลสเบี้ยนขวัญใจกลุ่ม LGBTQIA+ ขึ้นมาเป็น 1 ใน 7 แบรนด์แอมบาสเดอร์ เพื่อช่วยสื่อสารการทำการตลาด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
จากนั้นมีรายงานว่า การตอบรับไม่เป็นอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ เห็นได้จากรายได้เริ่มลดลงอย่างมาก ซึ่งสวนทางจากเป้าหมายรายได้ปี 2023 ที่บริษัทคาดการณ์ไว้ที่ 6.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าปีที่แล้วถึง 5%
เช่นเดียวกับ Cathaleen Chen รายงานว่า Victoria’s Secret เริ่มพยายามนำภาพลักษณ์ของความเซ็กซี่กลับมา และนอกจากยอดขายที่ลดลงแล้ว บริษัทยังพยายามปรับโครงสร้างโดยการเพิ่มสัดส่วนคณะกรรมการบริษัทให้เป็นผู้หญิงมากขึ้น
“สิ่งสำคัญที่เราต้องทำในปี 2023 คือ การผลักดันแนวทางธุรกิจหลักของบริษัทให้มีความแข็งแกร่ง เพื่อสร้างยอดขายในทุกตลาด พนักงานทุกคนต้องมีความพยายามและเตรียมรับมือกับความท้าทายของตลาดที่หดตัวลงจากปัญหาทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ทำให้ผู้บริโภคหันไปเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาถูกกว่า” Martin Waters ซีอีโอของ Victoria’s Secret กล่าว
จากนี้บริษัทเตรียมนำความเซ็กซี่เข้ามาเพิ่มประสบการณ์ที่หลากหลายให้กับลูกค้า พร้อมเปิดตัวชุดออกกำลังกายและชุดว่ายน้ำคอลเล็กชันใหม่ๆ ออกมากระตุ้นตลาด ตลอดจนการเดินหน้าขยายสาขาอีก 400 แห่งในตลาดต่างประเทศ
กลยุทธ์ทั้งหมดจะทำให้เราไปถึงเป้าหมายใหม่คือ เน้นปรับปรุงความสามารถในการทำกำไร และกลับไปสร้างยอดขายให้ได้ 7 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
อ้างอิง: