×

ทางการอิตาลีประกาศภาวะฉุกเฉินในเวนิส หลังเผชิญน้ำท่วมสูงสุดในรอบ 50 ปี

13.11.2019
  • LOADING...

เมื่อวานนี้ (12 พฤศจิกายน) ทางการอิตาลีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเวนิส หลังจากเผชิญเหตุการณ์น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 50 ปีทะลักเข้าท่วมร้านค้าและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ

 

ศูนย์สังเกตการณ์กระแสน้ำในเมืองเวนิสส่งสัญญาณเตือนทั่วเวนิสว่า ปรากฏการณ์น้ำทะเลยกสูง (Acqua Alta) จากฝนตกหนักในปีนี้ ส่งผลให้มีน้ำท่วมสูงราว 1.87 เมตร โดยสถิตินี้เป็นรองจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อเดือนพฤศจิกายน 1966 หรือ 53 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีน้ำท่วมสูงถึง 1.9 เมตรเท่านั้น

 

โรงแรมหลายแห่งมีรองเท้าบู๊ตพลาสติกสูงเหนือเข่าแบบใช้แล้วทิ้งบริการให้กับนักท่องเที่ยวแล้ว แต่นักท่องเที่ยวยังคงต้องเดินฝ่าน้ำท่วมสูงกว่ารองเท้าบู๊ต ขณะที่รถแท็กซี่น้ำก็พยายามส่งนักท่องเที่ยวตามโรงแรมและคอยช่วยให้พวกเขาปีนเข้าโรงแรมผ่านทางหน้าต่างด้วย

 

ลุยจิ บรุกนาโร (Luigi Brugnaro) นายกเทศมนตรีเวนิส ทวีตข้อความว่า ระดับน้ำเริ่มลดต่ำลงอีกครั้ง “ช่างเป็นค่ำคืนที่ยาวนาน ความหวาดกลัวเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมาถูกแทนที่ด้วยการประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว”

 

นอกจากนี้บรุกนาโรยังกล่าวโทษการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศว่า “เป็นแผลที่ทิ้งร่อยรอยไว้ถาวร”

 

ขณะเดียวกันสถานที่สำคัญในเวนิสอย่าง Saint Mark’s Square จัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดของเวนิสได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้ เนื่องจากตั้งอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดของเมือง เจ้าหน้าที่วางแผนว่าจะเฝ้าดูแลห้องโถงของมหาวิหาร Saint Mark’s ที่ถูกน้ำท่วมตลอดทั้งคืนนี้

 

ปิแอร์เปาโล คัมโพสตรินี (Pierpaolo Campostrini) สมาชิกสภา Saint Mark’s เผยว่า มหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 828 เคยเผชิญเหตุการณ์น้ำท่วมสูงประมาณนี้เพียง 5 ครั้งในประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ 3 ครั้งที่ผ่านมาเพิ่งเกิดขึ้นในปี 2018 ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมของอิตาลีระบุว่า จะมอบงบประมาณสำหรับป้องกันน้ำท่วมให้กับมหาวิหารด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ในปี 2003 อิตาลีเคยกำลังพัฒนาโครงการสร้างประตูลอยน้ำ 78 แห่ง เพื่อป้องกันทะเลสาบในเวนิส เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์น้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น แต่โครงการดังกล่าวกลับเกิดภาวะต้นทุนบานปลายและเกิดความล่าช้าในการก่อสร้าง โครงการต่างๆ เหล่านี้จึงยังไม่แล้วเสร็จ

 

ภาพ: Marco Bertorello / AFP via Getty Images

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising