VanMoof เคยถูกสื่อมวลชนเรียกขานว่า ‘Tesla แห่งวงการจักรยานไฟฟ้า’ จักรยานไฟฟ้าของ VanMoof มีการออกแบบให้ดูเรียบง่าย แต่อัดแน่นด้วยนวัตกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่โดดเด่น ทั้งการเชื่อมต่อบลูทูธและจอแสดงผลในตัว จึงไม่แปลกที่ VanMoof จะประสบความสำเร็จในการขยายการเข้าถึงสู่ตลาดต่างประเทศในระยะเวลา 14 ปีที่ก่อตั้งมา โดยส่งออกวัฒนธรรมจักรยานของชาวดัตช์ไปยัง 25 ประเทศทั่วโลก
แต่แล้ว VanMoof ก็เดินสะดุดขาตัวเอง วันนี้บริษัทประสบปัญหาทางการเงินและถูกศาลกรุงอัมสเตอร์ดัมประกาศให้เป็นนิติบุคคลล้มละลาย ทำให้ไม่มีแรงในการดันเป้าหมายการปฏิวัติการเดินทางในเมือง ด้วยจักรยานไฟฟ้าความเร็วสูงมอเตอร์ทรงพลัง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่วิ่งในระยะทางไกลได้ แถมยังสามารถเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ มีระบบขับเคลื่อนแบบใหม่ มีระบบป้องกันจักรยานหายด้วยการรองรับฟีเจอร์ Find My ของ Apple รวมถึงมีพอร์ตชาร์จ USB-C ในจักรยานไฟฟ้ารุ่นล่าสุดอย่าง S5 และ A5
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ไหนว่า ‘รถจักรยานไฟฟ้า’ กำลังมาแรง แต่ทำไม VanMoof แบรนด์ชื่อดังสัญชาติเนเธอร์แลนด์ ที่มีราคาเริ่มต้นคันละ 88,000 บาท กลับต้องยื่น ‘ล้มละลาย’
- รู้จัก VanMoof สตาร์ทอัพเจ้าของฉายา ‘Tesla แห่งวงการจักรยานไฟฟ้า’ รุ่งโรจน์เหมือนกัน บนปัญหาที่คล้ายกัน!
สื่อต่างประเทศระบุว่า จักรยานไฟฟ้ารุ่นล่าสุดของ VanMoof มีคุณสมบัติและชิ้นส่วนที่ VanMoof ออกแบบเอง ซึ่งสร้างความท้าทายเรื่องการส่งมอบที่ตรงเวลาและการคืนเงินลงทุนที่หนักที่สุดเมื่อเทียบกับทุกรุ่น เพราะมีข้อบกพร่องจำนวนมากอย่างคาดไม่ถึง ตั้งแต่แบตเตอรี่ที่ทำงานผิดปกติ ไปจนถึงปัญหาชิฟเตอร์ (Shifter) ค้าง ทำให้บริษัทมีภาระอย่างมากในการจัดการการซ่อมแซมภายในบริษัท กลายเป็นหนึ่งในหลายที่มาของการล้มละลายในระยะเวลาเพียง 2 ปีหลังจากที่บริษัทได้รับเงินทุนกว่า 175 ล้านดอลลาร์
บทเรียน VanMoof ทำนวัตกรรมต้องสมดุล
หนึ่งในบทสรุปที่ทำให้ VanMoof ไม่สามารถรักษายอดขายและจัดการผลขาดทุนที่เพิ่มขึ้นได้ คือการไม่ได้สร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและการทำงานร่วมกันกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรม ส่งให้การคิดค้นใหม่ๆ ซึ่งเป็นเหมือนทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ VanMoof กลายเป็นจุดอ่อนในพริบตา
เห็นได้ชัดจากกรณีของปัญหาชิฟเตอร์ค้าง จักรยานทุกคันที่ถูกออกแบบมาให้มีเกียร์มักจะต้องมี Shifter เพื่อส่งเสริมให้การปั่นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตรงนี้ VanMoof เลือกที่จะพัฒนา Shifter ขึ้นเองเช่นเดียวกับหลายส่วนประกอบจักรยานที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ
ดังนั้นเมื่อ Shifter ที่ต้องสั่งทำพิเศษนี้ต้องใช้เครื่องมือและความรู้เฉพาะด้าน การซ่อมแซมจึงกลายเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง ช่างซ่อมในพื้นที่ใกล้เคียงหลายคนไม่คุ้นเคยกับความซับซ้อนของจักรยานไฟฟ้าแบรนด์ VanMoof ทำให้กระบวนการซ่อมแซมยิ่งยุ่งยากขึ้นไปอีก
ในอีกมุม การล่มสลายของ VanMoof ยังเป็นเครื่องเตือนใจที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรม E-Bike ภาวะนี้ขีดเส้นใต้ 200 เส้นถึงความสำคัญของการสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและการทำงานร่วมกันเป็นอีโคซิสเต็ม
แม้ว่านวัตกรรมจะมีความสำคัญต่อการรักษาความสามารถในการแข่งขัน แต่การปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมและการรับประกันความสามารถในการซ่อมบำรุงที่ง่ายดายอย่างเป็นระบบก็ยังมีความสำคัญไม่แพ้กัน ในการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหากระเป๋าฉีกเพราะต้นทุนการบำรุงรักษาพุ่งกระฉูด
E-Bike ไม่ตาย?
ขณะนี้ผู้เล่นรายอื่นในตลาด E-Bike กำลังตื่นตัวกับการล่มสลายของ VanMoof หลายแบรนด์หันมาประเมินกลยุทธ์ของบริษัทเสียใหม่ สปอตไลต์ตอนนี้ฉายไปที่บริษัทขนาดเล็กชื่อ Cowboy ในบรัสเซลส์ และผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ไอทีอย่าง acer ที่อาจกำลังปรับแนวทางเพื่อหลีกเลี่ยงชะตากรรมเดียวกัน
โดยมีแนวโน้มเดินตามผู้เล่นรายใหญ่ที่มีเครือข่ายค้าปลีกและบริการที่มั่นคงกว่าอย่าง Pon ซึ่งมีข้อได้เปรียบเรื่องความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ E-Bike หลากหลาย ช่วยให้บริการบำรุงรักษาคล่องตัวขึ้น
ในขณะที่ชะตากรรมของบริษัทขนาดเล็กในวงการ E-Bike ยังคงไม่แน่นอน ความกังวลใจของผู้ใช้ก็ร้าวรานไม่แพ้กัน จำนวนไม่น้อยหวั่นวิตกเกี่ยวกับความต่อเนื่องของฟีเจอร์เฉพาะแบรนด์ เช่น ‘Touch Unlock’ ของ VanMoof ซึ่งต้องอาศัยการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของ VanMoof
ภาวะล้มละลายนำไปสู่การปิดบริการชั่วคราวของ VanMoof ทำให้ลูกค้าบางส่วนไม่สามารถใช้งานจักรยานได้ ตรงนี้กลับเป็น Cowboy บริษัทจักรยานไฟฟ้าสัญชาติเบลเยียมที่ได้เปิดตัวแอป Bikey เพื่อช่วยเหลือเจ้าของจักรยาน VanMoof โดยเปิดให้สร้างและจัดเก็บรหัสดิจิทัลสำหรับจักรยานของแต่ละคน แม้ว่าเซิร์ฟเวอร์ของ VanMoof จะออฟไลน์ก็ตาม
การออกแอ็กชันของ Cowboy ถือเป็นการเยียวยาการรับรู้ของผู้บริโภคให้มองสินค้ากลุ่ม E-Bike อย่างมั่นใจได้มากขึ้น แต่การล้มละลายของ VanMoof ถูกมองว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำลายความมั่นใจในการลงทุนกับอุตสาหกรรมจักรยานไฟฟ้า จนกว่าแบรนด์ E-Bike จะพิสูจน์ตัวเองว่ามีความสมดุลและมีความสามารถในการปรับตัวมากพอ สำหรับ VanMoof ซึ่งเป็นบริษัทที่ครั้งหนึ่งเคยมีแนวโน้มดีมาก ก็อาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดหาเงินลงทุนเพื่อฟื้นฟูกิจการในอนาคตเช่นกัน
ความน่าสนใจอีกจุดอยู่ตรงนี้ คือ Tesla ของ อีลอน มัสก์ ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นข่าวว่ามีการพูดคุยกับ VanMoof แต่ข่าวลือนี้ดูเหมือนว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่ยักษ์ใหญ่ยานยนต์ EV จะร่วมลงทุนในตลาด E-Bike เมื่อพิจารณาจากคำประกาศก่อนหน้านี้ของมัสก์ที่ย้ำชัดเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจจักรยานยนต์
ที่สุดแล้ว แม้การล้มละลายจะสร้างแผลไว้เหวอะหวะขนาดไหน แต่ VanMoof ก็ยังมอบมรดกแห่งนวัตกรรมไว้ให้อุตสาหกรรม E-Bike เพราะวิสัยทัศน์ของ VanMoof ในการกำหนดนิยามใหม่ของการเดินทางในเมืองนั้นมีผลกระทบที่สำคัญต่อการรับรู้ของผู้บริโภคในตลาด ทำให้จักรยานไฟฟ้าได้รับการยอมรับ โดยเฉพาะเพื่อนร่วมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลดีจากภาวะนี้ด้วย
ดังนั้น อิมแพ็กจากปรากฏการณ์ ‘VanMoof ล้ม’ จึงกระทบโลกทั้งใบ ในขณะที่ปัญหาธุรกิจจักรยานไฟฟ้าจะเป็นเครื่องเตือนใจที่ยังคงมีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมสตาร์ทอัพไปอีกนาน.
ภาพปก: Annette Riedl / picture alliance via Getty Images
อ้างอิง:
- https://www.fastcompany.com/90928400/vanmoof-was-a-darling-of-the-e-bike-industry-then-it-crashed-heres-why
https://www.gearpatrol.com/outdoors/a44535158/vanmoof-ebikes-bankruptcy/ - https://innovationorigins.com/en/vanmoof-the-impact-and-aftermath-of-a-pioneering-e-bike-company/
- https://www.dutchnews.nl/2023/07/vanmoof-owners-can-now-bike-up-their-broken-bicycles/