‘Valichain’ สูตรลับเครื่องประดับไทย ครองใจลูกค้าด้วย Experience

ในโลกแฟชั่นที่เปลี่ยนเร็วไม่แพ้ฟีดโซเชียล การจะสร้างแบรนด์ให้มีที่ยืนในใจลูกค้าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ Valichain แบรนด์ Jewelry สัญชาติไทย คือหนึ่งในไม่กี่แบรนด์ที่ไม่เพียงแต่ ‘ติดลมบน’ แต่ยังพุ่งทะยานจนสร้างยอดขายได้กว่า 38 ล้านบาท ในช่วงสองปีแรกของการเปิดตัว (2564 – 2566)

 

ไทน์-กรกนก วรรณกิจ เจ้าของแบรนด์ Valichain เริ่มต้นจากการเป็น Beauty Blogger ที่เล็งเห็นปัญหาง่ายๆ ทว่าสำคัญของการสวมใส่เครื่องประดับ ว่ามักจะลอก, ดำ, เขียว หลังใส่ไม่กี่วัน หากไม่อยากเจอปัญหานี้ก็ต้องยอมจ่ายแพงเพื่อเข้าถึงแบรนด์ระดับสูง ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับหลายๆ คน

 

และนั่นคือจุดที่เธอมองเห็น ‘โอกาสทางธุรกิจ’

 

🟡 กระแสไม่ใช่โชค แต่คือผลของความพร้อม

 

ในปี 2564 Valichain ส่งผลิตภัณฑ์ให้เพื่อนๆ ที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ช่วยกันทดลองใส่ในชีวิตประจำวันจริงๆ เธอบอกให้ทุกคน “ใส่ตลอดเวลา” ไม่ว่าจะอาบน้ำ นอน หรือฉีดน้ำหอม เพื่อทดสอบความทนทานอย่างเต็มที่

 

เมื่อเพื่อนๆ ใช้แล้วชอบและไม่เกิดปัญหาอย่างที่เคยเจอ พวกเขาก็เริ่มโพสต์ลงโซเชียลมีเดียว่ากำลังลองเครื่องประดับแบรนด์ใหม่ที่ใส่แล้วไม่ลอกไม่ดำจริงๆ การบอกต่ออย่างจริงใจนี้สร้างกระแสความอยากรู้และความต้องการมหาศาลก่อนที่แบรนด์จะเปิดตัวเสียอีก

 

เมื่อ Valichain เปิดตัวอย่างเป็นทางการ จึงเกิดปรากฏการณ์ยอดขายพุ่งสูงเป็นพันๆ ออเดอร์ทันที เป็นการตอกย้ำว่าแบรนด์มาถูกทางและตอบโจทย์ตลาดได้อย่างแท้จริง

 

🟡 Branding ที่คิดลึกกว่าความสวย

 

Valichain ไม่ได้มุ่งเน้นแค่การขายสินค้า แต่ให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจจนลูกค้าอยากบอกต่อ ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาดแบบออร์แกนิกที่ทรงพลัง

 

🔸แรงบันดาลใจจากประสบการณ์จริง: กลยุทธ์นี้มาจากประสบการณ์ตรงของไทน์ ที่พบว่าพัสดุจากแบรนด์ที่ถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม จะกระตุ้นให้เธออยากถ่ายรูปและแชร์ลงโซเชียลมีเดียทันที

🔸แพ็กเกจจิ้งที่ออกแบบมาเพื่อการแชร์: แบรนด์ตั้งใจออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สวยงามโดดเด่น เพื่อสร้างความประทับใจแรกเห็นและทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษ ไม่ใช่แค่การห่อสินค้าในถุงพลาสติกธรรมดา

🔸ความใส่ใจที่มากกว่า: Valichain คิดแทนลูกค้าด้วยการมอบอุปกรณ์ดูแลรักษาที่จำเป็น เช่น ถุงผ้าสำหรับจัดเก็บและผ้าเช็ดเครื่องประดับไปพร้อมกับทุกออเดอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แบรนด์อื่นอาจให้ลูกค้าต้องซื้อเพิ่ม 

 

🟡 อ่านเทรนด์โลกให้ขาด แล้วปรับใช้ให้เข้ากับแบรนด์

 

ความสำเร็จของ Valichain ไม่ได้มาจากการออกแบบตามความรู้สึกเพียงอย่างเดียว แต่มาจากการวิเคราะห์และปรับใช้เทรนด์แฟชั่นอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อให้สินค้ามีความทันสมัยและตอบโจทย์ลูกค้าอยู่เสมอ

 

แบรนด์มีทีมดีไซเนอร์ที่คอยอัปเดตเทรนด์เครื่องประดับจากทั่วโลกอย่างสม่ำเสมอ ทั้งจากแฟชั่นวีค สมาคมจิวเวลรี่ หรือสไตล์ของเซเลบริตี้ โดยหัวใจสำคัญคือการนำเทรนด์ที่กำลังมาแรงมาปรับดีไซน์ให้เข้ากับเอกลักษณ์ของแบรนด์ เรียบง่าย มินิมอล และสามารถใส่ได้จริงในทุกวัน เพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลักชาวไทยที่ไม่ต้องการดีไซน์ที่จัดจ้านจนเกินไป

 

ตัวอย่างความสำเร็จ

 

🔸 แบรนด์ประสบความสำเร็จในการจับเทรนด์ ‘Old Money’ ที่ทำให้สร้อยข้อมือเทนนิส (Tennis Bracelet) กลับมาเป็นที่นิยมอย่างสูง

 

Valichain ตัดสินใจผลิตและทำการตลาดสินค้าชิ้นนี้ในช่วงที่ยังไม่มีแบรนด์อื่นในไทยให้ความสนใจ ทำให้เมื่อกระแสมาถึงจุดสูงสุด สินค้าก็กลายเป็นที่ต้องการของตลาดทันที

 

Valichain ไม่ใช่แบรนด์ที่มาจากการวางแผนแบบ textbook แต่มันเกิดจากความใส่ใจในรายละเอียดที่คนอื่นมองข้าม ความกล้าที่จะถามคำถามง่ายๆ ว่า “ทำไมยังไม่มีใครทำแบบนี้?” และลงมือทำก่อนที่จะมีคำตอบ

 

สำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ บางทีการเริ่มต้นที่ดี อาจไม่ต้องมาจากไอเดียแปลกใหม่ แต่มาจากการตั้งใจแก้ปัญหาแบบจริงจังมากพอ