วันนี้ (27 กุมภาพันธ์) ที่อาคารรัฐสภา กัณวีร์ สืบแสง สส. พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงสถานการณ์ที่สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สวนพลู ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการเตรียมส่งชาวอุยกูร์กลับจีน โดยระบุว่า ข่าวลือที่ได้ยินอย่างหนาหูตั้งแต่สิ้นปีที่แล้วจนถึงต้นปีนี้ว่าจะมีการส่งกลับชาวอุยกูร์ 48 ชีวิตที่ถูกกักขังตั้งแต่ 11 ปีที่ผ่านมาคงจะมีความเป็นจริงแล้ว
กัณวีร์มองว่าเป็นความเชื่อมโยงระหว่างการส่งกลับชาวอุยกูร์และการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ออนไลน์สแกมเมอร์ โดยมีความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทยและจีนในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ว่าการนำชาวจีนกลับออกมาได้แล้วก็จะส่งกลับประเทศไปโดยตรง โดยที่ไม่ผ่านเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ผู้หนีภัยชาวอุยกูร์ สอดไส้ในเครื่องบินที่ถูกเช่าเหมาลำมาจากประเทศจีน
กัณวีร์เรียกร้องให้รัฐบาลไทยออกมายืนยันข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร มีความร่วมมือหรือสมคบคิดว่าจะผลักดันชาวอุยกูร์ที่จำเป็นจะต้องได้รับความคุ้มครองระหว่างประเทศ จากรัฐบาลไทยหรือไม่ ซึ่งก็ยังไม่ได้ยินคำตอบใด ๆ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาตนก็พยายามสอบถามไปยังหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทางสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.), สำนักงานตำรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้แต่ข้อมูลที่ระบุว่ายังไม่ได้รับคำสั่งจากฝ่ายรัฐบาล
แล้วนอกจากนี้ยังกล่าวถึงเที่ยวบินระยะสั้น ที่เดินทางออกจากสนามบินดอนเมืองเมื่อช่วงเวลา 23.00 น. ของคืนวานนี้ กระทั่งถึงที่เมืองซินเจียงอุยกูร์เมื่อเวลา 04.00 น. ซึ่งจากรายงานของสื่อมวลชนและบุคคลในพื้นที่ ก็ทำให้เห็นได้ว่ามีรถของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 4 คัน ปิดผ้าใบสีดำ ไม่ให้มีผู้ใดเห็นจากภายนอกว่าภายในรถนั้นมีใครอยู่ด้านในรถ ซึ่งก็ยังมีการควบคุมตัวออกไปจากรถสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยไม่ได้ให้ใครตามขึ้นไปบนทางด่วน
หากวันนี้มีการส่งกลับผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ในเวลา 04.00 น. ที่ผ่านมา ก็จะถือว่าเป็นความร่วมมือส่งกลับผู้ลี้ภัยอีกครั้งหนึ่ง กัณวีร์มองว่า หากเป็นจริงก็ถือว่าเป็นความร่วมมือที่น่าเกลียดที่สุด เพราะไม่มีการเปิดเผยอะไรทั้งนั้น พาตัวเองอยู่เหนือกรอบของกระบวนการยุติธรรม ทั้งในประเทศ หรือในเวทีระหว่างประเทศ
ส่อกระทบความเชื่อมั่นนานาประเทศ
ด้าน รังสิมันต์ โรม สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ระบุถึงกรณีดังกล่าวเช่นกันว่า ตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา และตลอดกลางคืน พยายามพูดคุยกับหลายคน เบื้องต้นทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้การปฏิเสธ และยังไม่ได้รับการยืนยันว่าจะมีการส่งกลับประเทศจีน
นอกจากนี้บางหน่วยงานที่พยายามติดต่อก็ไม่สามารถติดต่อได้ หลายอย่างต้องยอมรับว่ามีข้อบ่งชี้ที่น่ากังวลหากมีการส่งกลับประเทศจีนจริง ถือเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย หากตามต่างประเทศเห็นถึงพฤติกรรมเช่นนี้ ก็จะกระทบกับความเชื่อมั่น
“การส่งคนกลับประเทศจีนเช่นนี้อาจส่งผลกระทบในทางที่ไม่ดีแน่นอน ซึ่งบทบาทของไทยในด้านสิทธิมนุษยชนจะเป็นอย่างไร การส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศจีนเช่นนี้จะไม่สามารถทำได้ เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ” รังสิมันต์กล่าว
ส่วนการตรวจสอบเรื่องนี้ จะใช้กลไกรัฐสภาในการยื่นญัตติด่วนก็คงไม่ทันแล้ว เพราะมีข้อบังคับรองรับไว้อยู่ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการบรรจุเข้าเป็นวาระของคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ในสัปดาห์ถัดไป
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการดีลทางการเมือง เพื่อให้ส่งตัวทั้งชาวอุยกูร์ และขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลับไปพร้อมกัน เพื่อแลกกับการปล่อยอุยกูร์กลับจีน ไปด้วยนั้น รังสิมันต์กล่าวว่า ไม่ขอยืนยันในข้อมูลตรงนี้
