×

แพทย์เตือนใช้ผงคลอรีนผสมน้ำอาบ อาจทำอันตรายต่อผิวหนัง-เยื่อบุ-ดวงตา กรณีมีคนนำไปใช้เป็นสูตรเร่งผิวขาว

โดย THE STANDARD TEAM
13.01.2022
  • LOADING...
ผงคลอรีน

วันนี้ (13 มกราคม) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากข่าวกรณีที่มีข่าวเผยแพร่ว่า มีหญิงสาวนำผงคลอรีนผสมน้ำอาบ เพื่อเป็นสูตรเร่งผิวขาวได้รวดเร็วนั้น กรณีนี้ขอชี้แจงว่า ผงคลอรีนที่เป็นสารเคมีกลุ่มแคลเซียมไฮโปคลอไรต์ (Calcium Hypochlorite) หรือโซเดียมไฮโปคลอไรต์ (Sodium Hypochlorite) มีรูปแบบเป็นผงสีขาว ใช้ในการฆ่าเชื้อโรคในสระว่ายน้ำ และใช้เป็นสารฟอกสีขาวในน้ำยาซักผ้า ตัวสารเคมีไฮโปคลอไรต์ (Hypochlorite) มีฤทธิ์เป็นด่าง ทำให้อีกทั้งเมื่อรวมกับน้ำจะปล่อยก๊าซคลอรีน ซึ่งสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ดวงตา จมูก หรือระบบหายใจได้ โดยเฉพาะหากใช้ในความเข้มข้นสูงหรือใช้ผิดวิธี

 

ด้าน พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยทั่วไปความรุนแรงของการระคายเคืองจากสารเคมีจะขึ้นอยู่กับความเข้มข้นและระยะเวลาที่สัมผัส อาการระคายเคืองจากสารกลุ่มนี้ ได้แก่ แสบตา ตาแดง น้ำตาไหล แสบจมูกและลำคอ ไอ แต่หากรุนแรงมากขึ้น สารเคมีอาจทำให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อบริเวณที่สัมผัสเกิดการไหม้ เป็นตุ่มน้ำ เป็นเนื้อตาย หรือส่งผลต่อระบบอื่นๆ ของร่างกาย เช่น ระบบหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท ในทางการแพทย์มีการใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์เจือจางผสมน้ำอาบเพื่อลดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง ซึ่งจะป้องกันการเห่อของโรคผื่นผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ แต่ผู้ป่วยจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอน วิธีการใช้ที่ถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากนำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ ผิดความเข้มข้น หรือแช่น้ำอาบนานเกินไป อาจก่อให้เกิดผลเสียตามมาได้                

 

พญ.มิ่งขวัญกล่าวเพิ่มเติมว่า สังคมควรปรับค่านิยมให้เห็นว่า ผิวทุกสีก็สวยได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นผิวขาวอย่างเดียว การดูแลผิวพรรณที่ถูกวิธีเริ่มต้นจากการทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี ดื่มน้ำที่เพียงพอ ทาครีมบำรุงตามความจำเป็นเพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นที่เหมาะสม ลดปัจจัยต่างๆ ที่อาจจะทำลายผิว เช่น หลีกเลี่ยงแสงแดดที่แรงและมลภาวะต่างๆ หากมีความต้องการปรึกษาเรื่องผิวพรรณแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising