กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้จีนอดทนอดกลั้นต่อกรณีการพบกันครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีไช่อิงเหวินและเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจีนสั่งซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันเป็นเวลา 3 วันเพื่อตอบโต้กรณีดังกล่าว โดยสหรัฐฯ เน้นย้ำว่า ตนสนับสนุน ‘สถานภาพที่เป็นอยู่เดิม’ (Status Quo) และไม่ได้สนับสนุนการประกาศเอกราชของไต้หวันแต่อย่างใด
ทางด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า “สหรัฐฯ จะเฝ้าจับตามองทางการจีนอย่างใกล้ชิด” พร้อมทั้งยืนยันว่า “สหรัฐฯ มีทรัพยากรและความสามารถภายในภูมิภาคที่มากเพียงพอที่จะสร้างหลักประกันให้กับสันติภาพและความมั่นคง เพื่อให้บรรลุพันธกรณีด้านความมั่นคงแห่งชาติของเรา”
ในวันนี้ (9 เมษายน) ทางการจีนจะซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันเป็นวันที่สองแล้ว โดยจะมีการฝึกซ้อมลาดตระเวนและซ้อมรบจนถึงวันพรุ่งนี้ ขณะที่กระทรวงกลาโหมของไต้หวันจะเฝ้าติดตามสถานการณ์บริเวณช่องแคบไต้หวันอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมความพร้อมหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
แม้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ จะเคยแสดงจุดยืนว่า สหรัฐฯ อาจใช้กำลังในการปกป้องไต้หวัน แต่อย่างไรก็ตาม ยุทธศาสตร์ที่สหรัฐฯ มีต่อประเทศพันธมิตรที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่เป็นทางการอย่างไต้หวันนั้นก็ยังคงเป็นความคลุมเครือทางยุทธศาสตร์ (Strategic Ambiguity) อยู่ไม่น้อย
ขณะที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนเคยกล่าวว่า การรวมชาติกับไต้หวันจะต้องถูกทำให้สำเร็จ เพราะถ้าหากสิ่งนี้เกิดขึ้นจริง จะกลายเป็นมรดกตกทอดที่สำคัญอย่างมากของจีนภายใต้การปกครองของผู้นำจีนรุ่นที่ 5 ที่มีชื่อว่าสีจิ้นผิง
แฟ้มภาพ: Jim Watson / AFP
อ้างอิง: