รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศแผนมอบแพ็กเกจช่วยเหลือด้านการทหารแก่ไต้หวันเพิ่มเติม ซึ่งอาจมีมูลค่าสูงกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1 หมื่นล้านบาท) ขณะที่หลายฝ่ายคาด การกระทำดังกล่าวอาจทำให้ทางการจีนยิ่งไม่พอใจ และมองว่าสหรัฐฯ ไม่เคารพหลักการจีนเดียว
โดยจีนมองว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนภายใต้เขตอำนาจอธิปไตยของจีน ดังนั้นจีนจึงเพิ่มแรงกดดันต่อไต้หวันอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะหวั่นไต้หวันประกาศแยกตัวเป็นเอกราช ในขณะที่ไต้หวันโต้แย้งว่า ไต้หวันมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง และมีเพียงชาวไต้หวันเท่านั้นที่จะสามารถตัดสินใจและกำหนดอนาคตของพวกเขาได้
ทางด้าน ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เคยกล่าวกับวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯ จะส่งมอบความช่วยเหลือด้านความมั่นคงเพิ่มเติมแก่ไต้หวันผ่านการใช้อำนาจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าด้วยการจัดส่งสิ่งของและบริการยามฉุกเฉิน (Presidential Drawdown Authority: PDA) ที่ได้รับมติเห็นชอบจากสภาคองเกรสเมื่อปลายปี 2022
โดยสภาคองเกรสสหรัฐฯ มีมติเห็นชอบในการจัดสรรงบประมาณมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.46 หมื่นล้านบาท) ผ่านการใช้อำนาจ PDA ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในแผนงบประมาณประจำปี 2023
ออสตินยังระบุอีกว่า รัฐบาลสหรัฐฯ และบรรดาชาติพันธมิตร จะต้องมอบแพ็กเกจช่วยเหลือทางทหาร ซึ่งรวมถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้แก่ไต้หวันภายในไม่กี่ปีข้างหน้านี้ เพื่อช่วยปกป้องไต้หวันจากภัยคุกคามต่างๆ
ขณะที่รัฐบาลไต้หวันระบุว่า งบประมาณด้านความมั่นคงของตนจะทุ่มให้กับการเตรียมพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จะใช้ป้องปรามการปิดล้อมเกาะไต้หวันของจีน โดยได้ส่ังซื้อโดรน MQ-9B SeaGuardian จากบริษัท General Atomics ของสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีกำหนดส่งมอบโดรนภายในปี 2025
โดยที่ผ่านมาสหรัฐฯ เคยส่งมอบอาวุธยุทโธปกรณ์ผ่านการใช้อำนาจ PDA เพื่อช่วยเหลือยูเครนสู้รบในสมรภูมิสงครามรัสเซีย-ยูเครนเช่นเดียวกัน
แฟ้มภาพ: Omar Havana / Getty Images
อ้างอิง: