สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐอเมริกา เตรียมออกมาตรการเพิ่มระดับความเข้มข้นในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ด้วยการออกกฎให้ผู้โดยสารของสายการบินที่เดินทางออกจากประเทศจีนทุกคนต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบก่อนเดินทางเข้าสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า มาตรการป้องกันโควิดชุดใหม่นี้มีขึ้นเนื่องจากกังวลต่อตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในระดับสูงในจีน อาจทำให้เกิดการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้
โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) ประกาศว่า ผู้โดยสารที่มีอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปทุกสายการบินที่มาจากประเทศจีน ฮ่องกง หรือมาเก๊า จะต้องเข้ารับการตรวจหาโควิดไม่เกิน 2 วันก่อนเดินทางมายังสหรัฐฯ และแสดงผลเป็นลบต่อสายการบินเมื่อออกเดินทาง
สำหรับข้อกำหนดซึ่งบังคับใช้โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติและสถานะการฉีดวัคซีนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 มกราคมนี้เป็นต้นไป โดยผู้เดินทางสามารถรับการทดสอบ PCR หรือการทดสอบตัวเองอย่างรวดเร็ว ซึ่งดำเนินการและตรวจสอบโดยบริการสุขภาพทางไกล การทดสอบอย่างรวดเร็ว ที่ผ่านการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือหน่วยงานระดับชาติที่เกี่ยวข้อง
ขณะเดียวกันผู้โดยสารของสายการบินที่บินผ่านสนามบินนานาชาติอินชอนในเกาหลีใต้ รวมถึงสนามบินนานาชาติโทรอนโต เพียร์สัน และสนามบินนานาชาติแวนคูเวอร์ในแคนาดา จะต้องตรวจหาโควิดเป็นลบก่อนที่จะเดินทางไปสหรัฐฯ หากว่าก่อนหน้านั้นพวกเขาอยู่ในจีนเป็นเวลา 10 วัน
ตามรายงานของ CDC ระบุว่า สนามบินทั้งสามแห่งนี้ครอบคลุมผู้เดินทางส่วนใหญ่ที่มีต้นทางในประเทศจีน แต่มีเที่ยวบินเชื่อมต่อไปยังสหรัฐฯ
ข้อกำหนดในครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่จีนประกาศเตรียมผ่อนคลายมาตรการ Zero-COVID ที่มุ่งสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในประเทศ หลังการคุมเข้มที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการลุกฮือประท้วงต่อต้านแสดงความไม่พอใจจากประชาชนชาวจีนในหลายเมืองทั่วประเทศเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งการผ่อนคลายดังกล่าวยังหมายรวมถึงการอนุญาตให้มีการเดินทางเข้า-ออกจีนโดยไม่จำเป็นต้องกักตัวอีกต่อไป และมีผลตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม
นอกเหนือจากเหตุผลเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดแล้ว ทางการสหรัฐฯ ยังกล่าวถึงความจำเป็นในการออกมาตรการคุมเข้มผู้โดยสารจากจีน เนื่องจากสหรัฐฯ มีข้อมูลจำกัดเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโควิดในประเทศจีน และไม่มีความชัดเจนว่าสายพันธุ์ใดที่เผยแพร่บนแผ่นดินใหญ่
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า การแพร่เชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในจีนเมื่อเร็วๆ นี้ เพิ่มศักยภาพของสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น โดยสหรัฐฯ กำลังดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน และเตรียมพร้อมรับมือโควิดสายพันธุ์ใหม่ ขณะที่สถานการณ์ในจีนคลี่คลาย
ทั้งนี้ ทาง CDC กำลังขยายโครงการที่ตรวจสอบผู้เดินทางระหว่างประเทศเพื่อหาโควิดสายพันธุ์ใหม่ โดยรวมถึงสนามบินในลอสแอนเจลิสและซีแอตเทิล ขณะนี้โครงการเฝ้าระวังจะครอบคลุมสนามบิน 7 แห่ง และครอบคลุมเที่ยวบินประมาณ 500 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ รวมถึง 290 เที่ยวบินจากจีนและพื้นที่โดยรอบ
โดยโครงการเฝ้าระวังจะเก็บตัวอย่างน้ำมูกจากผู้เดินทางระหว่างประเทศตามความสมัครใจ จากนั้น CDC จะวิเคราะห์ตัวอย่างที่ทดสอบโควิดในเชิงบวก เพื่อระบุว่าเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่หรือไม่
ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ มีขึ้นในระหว่างที่หลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น อิตาลี อินเดีย และมาเลเซีย ต่างก็ออกมาตรการยกระดับคุมเข้มผู้โดยสารที่เดินทางมาจากจีน โดยท่าทีดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับทางการจีน โดย หวังเหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ยืนยันว่าสถานการณ์การระบาดในจีนโดยรวมเป็นเรื่องที่สามารถคาดเดาได้และอยู่ภายใต้การควบคุม พร้อมสำทับว่าการหลอกลวง การป้ายสี และการชักใยทางการเมืองโดยมีแรงจูงใจแอบแฝงไม่สามารถเอาชนะข้อเท็จจริงได้
ขณะเดียวกันโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนยังวิจารณ์การรายงานข่าวการระบาดของโควิดในจีนของสื่อตะวันตกว่า เป็นรายงานที่เขียนด้วยความลำเอียงและมีอคติต่อจีนอย่างชัดเจน
อ้างอิง:
