วานนี้ (27 ธันวาคม) ศาลสูงสหรัฐอเมริกามีมติ 5 ต่อ 4 ให้คงนโยบายด้านการข้ามพรมแดน หรือ Title 42 ที่ออกในยุคของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไว้ตามเดิม ซึ่งอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถขับไล่ผู้อพยพที่ถูกจับ ณ บริเวณพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโกกลับประเทศได้
ศาลสูงสหรัฐฯ มีมติคงคำสั่งด้านสาธารณสุขของรัฐบาลที่มีชื่อว่า Title 42 ตามคำร้องของอัยการรัฐฝั่งรีพับลิกัน หลังจากเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นเคยมีคำสั่งออกมาว่าให้ยกเลิกการใช้ Title 42 ในวันที่ 21 ธันวาคม โดยตัวแทนจาก 19 รัฐโต้แย้งว่า การยกเลิกนโยบายดังกล่าวอาจทำให้ยอดผู้อพยพเข้าสหรัฐฯ ที่มีมากอยู่แล้วล้นทะลักไปกว่าเดิม จนกระทบกับทรัพยากรของแต่ละรัฐที่ผู้อพยพย้ายเข้าไปอาศัย ซึ่งหมายความว่าสหรัฐฯ จะใช้ Title 42 ต่อไปจนกว่าจะมีการตัดสินขั้นสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นภายในเดือนมิถุนายน 2023
ทั้งนี้ Title 42 มีผลบังคับใช้เป็นครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่โควิดระบาดใหม่ๆ และยังอยู่ในยุคการบริหารประเทศของทรัมป์ โดยเป็นกฎหมายที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถขับไล่ผู้อพยพที่ถูกควบคุมตัวบริเวณชายแดนได้อย่างรวดเร็วโดยไม่เปิดโอกาสให้ทำเรื่องขอลี้ภัย เพื่อลดความเสี่ยงด้านโควิด โดยในช่วงแรกนั้นรัฐบาลไบเดนยังคงใช้กฎหมายดังกล่าวต่อเนื่องเรื่อยมา แต่ภายหลังได้มีความพยายามที่จะยกเลิก หลังจากที่หน่วยงานสาธารณสุขของประเทศระบุเมื่อเดือนเมษายน 2022 ว่าสหรัฐฯ ไม่จำเป็นต้องป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวแล้ว
ด้านผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการคง Title 42 ไว้ตามเดิม รวมถึงคณะกรรมการช่วยเหลือระหว่างประเทศ (International Rescue Committee) ระบุว่า Title 42 ถูกใช้เพื่อเป็นเหตุผลในการขับไล่ผู้อพยพเกือบ 2.5 ล้านคนตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 และแย้งว่านโยบายด้านพรมแดนของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความตึงเครียดอย่างมากทั่วทั้งภูมิภาค และทำให้เส้นทางการอพยพมีความอันตรายมากขึ้น
แฟ้มภาพ: John Moore / Getty Images
อ้างอิง: