ปี 2025 หุ้นขนาดเล็กของสหรัฐฯ กำลังเป็นที่จับตามอง เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวและนโยบายสนับสนุนธุรกิจภายในประเทศ การเติบโตของกำไรและมูลค่าหุ้นที่ถูกกว่าหุ้นขนาดใหญ่ทำให้เป็นโอกาสลงทุนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากกระแส Reshoring, AI และ Healthcare Innovation
- เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัว และแนวโน้มสนับสนุนหุ้นขนาดเล็ก
US Small Caps มีความน่าสนใจในปี 2025 มาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 2% ในปี 2025-2026 พร้อมกับอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงและแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทขนาดเล็กที่พึ่งพาแหล่งเงินทุนมากกว่าบริษัทขนาดใหญ่
นอกจากนี้โอกาสที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมายและนโยบายของรัฐบาล เช่น การลดภาษีนิติบุคคล ส่งผลให้หุ้นขนาดเล็กได้รับประโยชน์
- การลงทุนในหุ้นขนาดเล็กสอดคล้องกับธีมและเทรนด์สำคัญ
หุ้นขนาดเล็กของสหรัฐฯ มีโอกาสเติบโตจากหลายธีมสำคัญที่กำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ได้แก่
- Reshoring: การผลิตและซัพพลายเชนถูกนำกลับมาที่สหรัฐฯ สนับสนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอุตสาหกรรมการผลิต
- AI & Cybersecurity: บริษัทขนาดเล็กที่เชื่อมโยงกับปัญญาประดิษฐ์และความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้รับความสนใจสูงจากนักลงทุน
- การบริโภคภายในประเทศ: การบริโภคภายในสหรัฐฯ ฟื้นตัว หุ้นในกลุ่มค้าปลีก ร้านอาหารและบริการมีแนวโน้มเติบโต
- Healthcare Innovation: เทคโนโลยีทางการแพทย์ (MedTech & BioTech) ที่เน้นนวัตกรรมทางสุขภาพ เช่น การรักษามะเร็ง เทคโนโลยีชีวภาพ และอุปกรณ์การแพทย์อัจฉริยะ
- ศักยภาพของหุ้นขนาดเล็กและข้อดีในการลงทุน
- การเติบโตของกำไรสูงกว่าหุ้นขนาดใหญ่: คาดการณ์ว่ากำไรของ Russell 2000 (ดัชนีหุ้นขนาดเล็ก) จะเติบโตสูงกว่าหุ้น S&P 500 ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป
- Valuation ที่น่าสนใจ: หุ้นขนาดเล็กมีการซื้อขายที่ Discount 24% เมื่อเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทางประวัติศาสตร์
- ความสามารถในการเติบโตในระยะยาว: หุ้นขนาดเล็กสามารถขยายธุรกิจได้รวดเร็วกว่าหุ้นขนาดใหญ่ และมีโอกาสถูกซื้อกิจการจากบริษัทใหญ่
- กลยุทธ์การลงทุนของ Goldman Sachs ในหุ้นขนาดเล็ก
Goldman Sachs หนึ่งในธนาคารเพื่อการลงทุนและสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังมุ่งเน้นการลงทุนในหุ้นขนาดเล็กผ่านกองทุน US Small Cap Equity Portfolio ซึ่งใช้กลยุทธ์คัดเลือกหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว โดยเน้น
- Quality Compounders: คัดเลือกหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีความได้เปรียบในการแข่งขัน
- หุ้นที่มีผู้บริหารที่มีคุณภาพ: มุ่งเน้นบริษัทที่มีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์และใช้กลยุทธ์ที่คุ้มค่า
- หุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น (Undervalued): ลงทุนในหุ้นที่ถูกประเมินค่าต่ำเกินไปจากตลาด
US Small Cap Equity Portfolio ของ Goldman Sachs มีการลงทุนในหุ้นตัวอย่างดังนี้
- Federal Signal (FSS): ผู้นำตลาดอุปกรณ์เตือนภัยและป้ายจราจร
- จุดแข็ง: มีส่วนแบ่งการตลาดสูงในอุตสาหกรรมสัญญาณเตือนภัยและป้ายจราจร มีฐานลูกค้าที่หลากหลาย และมีประวัติการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง
- โอกาส: ได้รับประโยชน์จากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และความต้องการอุปกรณ์เตือนภัยที่เพิ่มขึ้น
- Moog Inc. (MOG.A): ผู้ผลิตระบบควบคุมการเคลื่อนไหว
- จุดแข็ง: เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระบบควบคุมการเคลื่อนไหว มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอากาศยานและการป้องกันประเทศ และมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง
- โอกาส: ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมอากาศยานและการป้องกันประเทศ และการขยายตัวไปสู่ตลาดใหม่ๆ เช่น หุ่นยนต์และอุปกรณ์ทางการแพทย์
- Meritage Homes (MTH): ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ
- จุดแข็ง: มีชื่อเสียงด้านการสร้างบ้านคุณภาพสูง มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ และมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
- โอกาส: ได้รับประโยชน์จากความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ
- SPX Technologies (SPXC): ผู้ผลิตระบบ HVAC และเครื่องมืออุตสาหกรรม
- จุดแข็ง: มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มีฐานลูกค้าที่กว้างขวาง และมีประวัติการดำเนินงานที่ยาวนาน
- โอกาส: ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของตลาด HVAC และการขยายตัวไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ อาทิ พลังงานทดแทน
- Piper Sandler (PIPR): บริษัทลงทุนและบริการทางการเงิน
- จุดแข็ง: มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการด้านวาณิชธนกิจ การจัดการสินทรัพย์ และการวิจัยหลักทรัพย์
- โอกาส: ได้รับประโยชน์จากกิจกรรมการควบรวมและซื้อกิจการที่เพิ่มขึ้น และความต้องการบริการจัดการสินทรัพย์ที่สูงขึ้น
- Knife River (KNF): ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างรายใหญ่
- จุดแข็ง: เป็นหนึ่งในผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ มีเครือข่ายโรงงานและเหมืองที่กว้างขวาง และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
- โอกาส: ได้รับประโยชน์จากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม
- MACOM Technology (MTSI): ผู้ออกแบบและผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์
- จุดแข็ง: มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม และมีฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ
- โอกาส: ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ และความต้องการชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มขึ้นในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
- CyberArk (CYBR): ผู้นำด้านความปลอดภัยไซเบอร์
- จุดแข็ง: เป็นผู้นำด้านโซลูชันการจัดการข้อมูลประจำตัวและการเข้าถึงที่มีสิทธิ์ มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ และมีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
- โอกาส: ได้รับประโยชน์จากความกังวลด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น และการเติบโตของตลาดคลาวด์คอมพิวติ้ง
- Skyward Specialty (SKWD): บริษัทประกันภัยเฉพาะทาง
- จุดแข็ง: มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการประกันภัยเฉพาะทาง เช่น การประกันภัยการบินและอวกาศ การประกันภัยทางทะเล และการประกันภัยภัยพิบัติ
- โอกาส: ได้รับประโยชน์จากความต้องการประกันภัยเฉพาะทางที่เพิ่มขึ้น และการขยายตัวไปสู่ตลาดใหม่ๆ
- Arcosa (ACA): ผู้ผลิตโครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์ขนส่ง
- จุดแข็ง: มีความเชี่ยวชาญในการผลิตโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สะพาน รางรถไฟ และเสาส่งไฟฟ้า
- โอกาส: ได้รับประโยชน์จากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม
สำหรับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนที่เกาะกระแสไปกับการเติบโตของธุรกิจใหม่ผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF Onshore Fund) หรือกองทุนรวมต่างประเทศโดยตรง (Direct Offshore Fund) ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ของการลงทุนในสินทรัพย์หรือหลักทรัพย์ในต่างประเทศ (Offshore Investment) สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมกับ UOB หรือติดต่อที่ปรึกษาทางการเงิน (Client Advisor) ของ UOB Privilege Banking โทร. 0 2081 0999 หรือคลิก www.uob.co.th/privilegebanking
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย