×

สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีกบฏฮูตีเป็นกลุ่มก่อการร้ายอีกรอบ ตอบโต้โจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง

18.01.2024
  • LOADING...

รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศว่า ได้บรรจุกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนกลับไปอยู่ในบัญชีรายชื่อกลุ่มก่อการร้ายอีกครั้ง หลังจากที่เคยถอนออกมาในช่วงต้นปี 2021 ภายหลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งเพียงไม่นาน 

 

การตัดสินใจดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในการตัดสินใจด้านการต่างประเทศครั้งสำคัญของไบเดน ภายหลังการกระทำของกลุ่มฮูตีที่ก่อเหตุโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยต่อ Reuters ว่า การบรรจุกลุ่มฮูตีในรายชื่อผู้ก่อการร้ายดังกล่าวถูกกำหนดเป็นพิเศษ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตัดเงินทุนและอาวุธที่กลุ่มฮูตีใช้ในการโจมตีหรือปล้นเรือ

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่กลุ่มฮูตีอ้างว่า ได้ยิงขีปนาวุธโจมตีเรือสินค้า Genco Picardy Bulk ที่ดำเนินการโดยสหรัฐฯ ระหว่างที่เดินทางผ่านอ่าวเอเดน ซึ่งถือเป็นการโจมตีครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ ซึ่งผลการโจมตีทำให้เรือได้รับความเสียหายไม่มากนัก และไม่มีลูกเรือบาดเจ็บ ขณะที่เรือกำลังอยู่ระหว่างเดินทางออกจากพื้นที่น่านน้ำดังกล่าว

 

ขณะเดียวกัน มีรายงานจาก CNN อ้างข้อมูลจาก 3 เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ว่า กองทัพสหรัฐฯ ได้ใช้ขีปนาวุธโทมาฮอว์กโจมตีใส่เป้าหมายเครื่องยิงขีปนาวุธ 14 เครื่องของกลุ่มฮูตีในเยเมน ซึ่งถือเป็นการโจมตีกลุ่มฮูตีครั้งที่ 4 ในช่วงไม่ถึง 1 สัปดาห์ 

 

ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพสหรัฐฯ และอังกฤษยังได้ร่วมกันปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มหลายสิบเป้าหมายของกลุ่มฮูตีในเยเมน เพื่อตอบโต้การจุดชนวนวิกฤตในทะเลแดง ส่งผลให้กลุ่มฮูตีประกาศจะตอบโต้ทั้ง 2 ประเทศอย่างรุนแรง 

 

ทั้งนี้ สหรัฐฯ และหลายชาติแสดงความกังวลต่อวิกฤตที่เกิดขึ้นในทะเลแดง โดยกลุ่มฮูตีซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ยืนยันว่าจะไม่ยุติการโจมตีจนกว่าอิสราเอลจะยอมยุติการทำสงครามกวาดล้างกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา

 

“กองกำลังทางเรือของฮูตีไม่ลังเลเลยที่จะกำหนดเป้าหมายไปยังแหล่งที่มาของภัยคุกคามทั้งหมดในทะเลแดงและทะเลอาหรับ ด้วยสิทธิอันชอบธรรมในการปกป้องเยเมน และให้การสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ที่ถูกกดขี่ต่อไป” โฆษกฝ่ายทหารของฮูตีระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (15 มกราคม)

 

หวั่นห่วงโซ่อุปทาน-การค้าโลกหยุดชะงัก

 

การโจมตีเรือพาณิชย์ในทะเลแดงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างเอเชียและยุโรป เนื่องจากเส้นทางเดินเรือในทะเลแดงถือเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือสำคัญของโลก โดยมีสัดส่วนประมาณ 15% ของปริมาณการขนส่งสินค้าทั่วโลก

 

หลายบริษัทขนส่งรายใหญ่ อาทิ Maersk ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางใหม่ที่ยาวกว่ารอบทวีปแอฟริกา หรือหยุดเดินเรือชั่วคราว และสั่งการให้เรือสินค้าของตนอยู่ห่างจากทะเลแดง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจทำให้เกิดการหยุดชะงักของการค้าและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และอาจกินเวลาอย่างน้อย 2-3 เดือน 

 

ขณะที่อัตราการขนส่งสินค้าทางทะเลเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่านับตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม และเบี้ยประกันความเสี่ยงสำหรับการขนส่งสินค้าผ่านทะเลแดงก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

 

ภาพ: Stringer / Anadolu Agency / Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X