กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัด เงินเฟ้อ จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคประจำเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 8.5% ลดลงจากระดับ 9.1% ในเดือนมิถุนายน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 8.7% นับเป็นการปรับลดลงของเงินเฟ้อสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกนับจากเดือนเมษายน
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมการคำนวณราคาน้ำมันและอาหารปรับอยู่ที่ 5.9% ต่ำกว่าระดับคาดการณ์ของตลาดที่ 6.1% เช่นกัน
ตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาต่ำกว่าคาดส่งผลให้ตลาดมีการตอบรับในเชิงบวกโดยดัชนีภาคอุตสาหกรรมดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับเพิ่มขึ้นทันที 400 จุด ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ ปรับลดลง
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ยังระบุว่า แม้ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะชะลอความร้อนแรงลงจากเดือนก่อนหน้า แต่ก็ยังคงยืนอยู่ในระดับใกล้เคียงจุดสูงสุดในรอบ 40 ปี โดยค่าครองชีพในหลายๆ ด้านของชาวอเมริกันยังคงปรับสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่น ราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น 10.9% ค่าไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น 15.2% ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยซึ่งมีน้ำหนักในการคำนวณเงินเฟ้อค่อนข้างมากก็ปรับเพิ่มขึ้น 5.7%
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์เชื่อว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับลดลงจะช่วยลดแรงความร้อนแรงในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในการประชุมเดือนกันยายน โดยมีความเป็นไปได้ที่ Fed จะลดการปรับขึ้นดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ 0.50% จากเดิมที่ตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยที่อัตรา 0.75%
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
