Microsoft ได้ออกมาเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ว่า ระบบของพวกเขาได้ถูกโจมตีโดยมัลแวร์ของกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเชื่อมโยงกับรัสเซีย ซึ่งมีเป้าหมายการโจมตีรัฐในสหรัฐฯ รวมถึงหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่ง และหน่วยงานด้านนิวเคลียร์ในประเทศ
ทั้งนี้ จากการดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิดพบว่า กรณีดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานหรือลูกค้า Microsoft แต่อย่างใด
Frank Shaw โฆษกของทาง Microsoft เปิดเผยว่า “เราได้ตรวจพบโค้ดที่เชื่อมโยงกับการโจมตีทางไซเบอร์ในระบบนิเวศน์ของเรา โดยได้ทำการคัดแยกและจัดการลบออกจากระบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ เราไม่พบหลักฐานใดๆ ที่เชื่อมโยงกับการเข้าถึงบริการของเรา และข้อมูลของผู้ใช้งาน
“นอกจากนี้ จากการตรวจสอบของเราที่ยังคงดำเนินอยู่ ณ เวลานี้ ก็ไม่พบการกระทำใดๆ ก็ตามที่ชี้ให้เห็นว่า ระบบของเราได้ถูกใช้งานในการโจมตีระบบของหน่วยงาน บริษัทอื่นๆ”
ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Microsoft ยังระบุอีกด้วยว่า กรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีลูกค้ามากกว่า 40 รายที่ถูกเพ่งเล็งในการโจมตีทางไซเบอร์ ในจำนวนนี้ 80% เป็นเหยื่อในสหรัฐฯ ที่เหลืออาศัยอยู่ในแคนาดา, เม็กซิโก, เบลเยียม, สเปน, สหราชอาณาจักร, อิสราเอล และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ขณะที่ทางการรัสเซียได้ออกมาตอบโต้กรณีที่เกิดขึ้น โดยบอกว่า พวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงต่อเหตุการณ์การโจมตีทางไซเบอร์ใดๆ ก็ตาม
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
- https://www.reuters.com/article/us-global-cyber-microsoft-idUSKBN28R3BY?taid=5fdc32a4047c5c0001cbcc9e&utm_campaign=trueAnthem:+Trending+Content&utm_medium=trueAnthem&utm_source=twitter
- https://edition.cnn.com/2020/12/17/politics/microsoft-hack-organizations/index.html?utm_source=twbusiness&utm_term=link&utm_content=2020-12-18T01%3A56%3A06&utm_medium=social
- https://blogs.microsoft.com/on-the-issues/2020/12/17/cyberattacks-cybersecurity-solarwinds-fireeye/