×

ธนาคารกลางส่วนใหญ่คาด เงิน ‘ดอลลาร์’ จะยังครองอำนาจสกุลเงินโลกต่อไปในทศวรรษหน้า

28.06.2023
  • LOADING...
เงินดอลลาร์

จากการสำรวจประจำปีของธนาคารกลางต่างๆ พบว่า เงินดอลลาร์จะยังคงสถานะเป็นสกุลเงินสำรองที่โดดเด่นที่สุดของโลกในช่วงทศวรรษหน้า ทำให้บางประเทศต้องกลับมาพิจารณาในการยอมรับสกุลเงินอื่นว่าจำเป็นหรือไม่

 

การวิจัยโดย Official Monetary and Financial Institutions Forum (OMFIF) ซึ่งเป็นหน่วยงานคลังสมองของธนาคารกลางแห่งสหราชอาณาจักรพบว่า ธนาคารกลางสำรองเงินทุนรวมกันเกือบ 5 ล้านล้านดอลลาร์ และคาดว่าเงินดอลลาร์จะลดลงอย่างต่อเนื่องตามสัดส่วนของเงินสำรองทั่วโลกที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป

 

อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์ยังคงคิดเป็น 54% ของเงินสำรองทั้งหมดในเวลา 10 ปีข้างหน้า เมื่อเทียบกับ 58% ในปัจจุบัน และตามข้อมูลของ IMF ระบุว่า ในช่วงศตวรรษที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ เงินดอลลาร์คิดเป็นมากกว่า 70% ของเงินสำรองทั่วโลก

 

ในบรรดาผู้ที่พยายามท้าทายอำนาจของเงินดอลลาร์ คนที่โดดเด่นก็คือ ลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิล ซึ่งเป็นผู้นำที่เรียกร้องให้ตลาดเกิดใหม่ทบทวนการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์ในการประชุมสุดยอดที่กรุงปารีสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่ ไซริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีของแอฟริกาใต้ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องสกุลเงินจะเป็นวาระการประชุมสำหรับการประชุมกลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS) ซึ่งรวมถึงรัสเซีย อินเดีย และจีน ในเดือนสิงหาคมนี้

 

การครอบงำของเงินดอลลาร์ค่อยๆ ลดลงในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากบทบาทของสหรัฐฯ ในการค้าโลกลดลง ในขณะที่คำสั่งแช่แข็งสินทรัพย์ของธนาคารกลางรัสเซียมูลค่ากว่า 3 แสนล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ก็ได้ก่อให้เกิดการเรียกร้องในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกบางแห่งให้ลดการพึ่งพาสกุลเงินของสหรัฐฯ

 

การสำรวจของ OMFIF ยังพบว่า 16% ของธนาคารกลางทั่วโลกวางแผนเพิ่มความเสี่ยงกับเงินดอลลาร์สหรัฐต่อไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ในทางตรงข้ามมี 10% ที่วางแผนลดความเสี่ยงกับเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ในอีก 10 ปีข้างหน้า ธนาคารกลางจำนวน 6% คาดว่าจะลดการถือครองเงินดอลลาร์

 

จีนซึ่งเป็นผู้ถือครองเงินทุนสำรองรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ผลักดันให้ประเทศอื่นๆ ยอมรับสกุลเงินของตนมากขึ้น แต่การคว่ำบาตรรัสเซียทำให้ประเด็นภูมิรัฐศาสตร์กลายเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณา และบางรายมองว่าสหรัฐฯ ยังคงตึงเครียดกับจีน จึงไม่เต็มใจที่จะลงทุนในจีนในตอนนี้

 

ในการศึกษาของ OMFIF พบว่า มีเพียง 13% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่คาดว่าจะเพิ่มการถือครองสกุลเงินหยวน ซึ่งลดลงจาก 30% ในปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ภายในระยะเวลา 10 ปี 40% ของธนาคารกลางคาดว่าจะเพิ่มการถือครองเงินหยวน จึงคาดการณ์ว่าส่วนแบ่งของเงินสำรองทั่วโลกในรูปแบบเงินหยวนจะเพิ่มขึ้นจากประมาณ 3% เป็น 6% ภายในปี 2033

 

นอกจากนี้การศึกษายังพบว่าเงินยูโรน่าจะได้รับอานิสงส์มากที่สุดจากแนวโน้มการพึ่งพาเงินดอลลาร์ที่ลดลง และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ

 

ปัจจุบันเงินยูโรคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 23% ของเงินสำรองทั่วโลก แต่ธนาคารกลางร้อยละ 14 กล่าวว่าพวกเขาวางแผนที่จะเพิ่มการถือครองเงินยูโรในอีกสองปีข้างหน้า ซึ่งมากกว่าความต้องการสกุลเงินอื่นๆ และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากปีที่แล้ว

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising