ผลกระทบจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ และอัตราเงินเฟ้อที่ร้อนแรง ทำให้การยื่นขอล้มละลาย (Bankruptcy Protection) ของบริษัทในสหรัฐฯ อยู่ในระดับสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่า ยุคดอกเบี้ยถูกสิ้นสุดลงแล้ว
ตามข้อมูลจาก S&P Global Market Intelligence เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2023 มีบริษัทในสหรัฐฯ ขอยื่นล้มละลายถึง 236 บริษัท สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2020 และสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2022 ถึง ‘เท่าตัว’ โดยจำนวนนี้ มีบริษัทใหญ่ถึง 8 แห่ง ที่มีหนี้สินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ยื่นฟ้องล้มละลาย
ซึ่งในเดือนเมษายนเดือนเดียว มีการยื่นคำร้องล้มละลายถึง 54 ฉบับ นับว่าชะลอตัวลงจาก 70 ฉบับในเดือนมีนาคม
โดยบริษัทสินค้าฟุ่มเฟือยที่ต้องใช้การตัดสินใจในการซื้อ (Consumer Discretionary) คือภาคส่วนที่ยื่นขอล้มละลายสูงกว่าภาคส่วนอื่นๆ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้
บริษัท Bed Bath & Beyond Inc. ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่ยื่นฟ้องล้มละลาย เมื่อวันที่ 23 เมษายน โดยบริษัทมีแผนที่จะขายทรัพย์สินของบริษัท และวางแผนปิดร้านค้าเกือบ 500 แห่งในที่สุด เว้นแต่จะปิดดีลการขายที่สามารถทำให้ร้านค้าเหล่านั้นเปิดต่อไปได้ ตามการเปิดเผยของบริษัท
ส่วนการยื่นล้มละลายที่โดดเด่นอีกหนึ่งบริษัทคือ Virgin Orbit Holdings Inc. ในวันที่ 4 เมษายน เพื่อหาผู้ซื้อ เนื่องจากบริษัทไม่สามารถระดมเงินได้เพียงพอนอกศาล เพื่อให้ดำเนินกิจการต่อไปได้ ตามการเปิดเผยของบริษัท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เจเน็ต เยลเลน เตือน! สหรัฐฯ อาจผิดนัดชำระหนี้ 1 มิ.ย. นี้ หากคองเกรสไม่เพิ่มหรือระงับเพดานหนี้
- ฟันธง Fed ขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อในการประชุมวันที่ 3 พ.ค. นี้ ดันอัตราดอกเบี้ยแตะ 5.1% นิวไฮรอบ 16 ปี
- IMF คาด การเติบโตของ GDP โลกปีนี้ ครึ่งหนึ่งมาจากจีน-อินเดีย พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจจีนปีนี้เป็นขยายตัว 5.2%
อ้างอิง: