×

ด้ายแดง ถึง เชือกป่าน บทสรุปของจักรวาลแห่งการรอคอย

02.02.2023
  • LOADING...

“จบแล้วการรอคอยที่แสนนาน

จบแล้ววันวานที่เคยหวั่นไหว

เมื่อรู้ว่ามีเธอคอยจับมือฉันทุกวันเรื่อยไป

ต้องเจออะไรยังไงก็ไม่กลัว”

 

เนื้อร้องจากเสียงของ โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม ที่คอซีรีส์วายคุ้นเคยกันอย่างดี เพราะนี่คือท่อนร้องในเพลง I Found You จากซีรีส์เรื่อง ด้ายแดง หรือ Until We Meet Again The Series ซีรีส์วายที่ได้รับผลตอบรับอย่างล้นหลาม จนผู้ผลิตอย่าง Studio Wabi Sabi ต้องต่อยอดสิ่งนี้ด้วยซีรีส์ เชือกป่าน หรือ Between Us The Series ที่ทำให้การปิดจบจักรวาลนี้กินเวลาไปกว่า 4 ปี

 

ย้อนกลับไปในปี 2562 ก่อนที่ซีรีส์วายจะกลายเป็นกระแสไปทั่วบ้านทั่วเมืองแบบตอนนี้ เวลานั้นบ้านเราไม่ได้ทำซีรีส์แนวนี้มากนัก หนึ่งปีก็อาจจะมีมาให้ดูสัก 4 หรือ 5 เรื่องเป็นอย่างมาก ดังนั้นความหลากหลายและแปลกใหม่ของเนื้อหาวายจึงไม่ได้มีมากเท่าปัจจุบัน ด้ายแดง กลายเป็นซีรีส์วายเรื่องแรกๆ ที่มีการพูดถึงเรื่องภพชาติและการกีดกันทางเพศในสังคม 

 

 

ด้ายแดง เป็นเรื่องราวของสองตัวละคร ‘ดีน’ และ ‘ภาม’ ที่มักจะฝันเห็นเหตุการณ์ของคนคู่หนึ่งซ้ำๆ และเรื่องราวในฝันก็ดูจะมีรายละเอียดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามความสนิทสนมที่มากขึ้นของพวกเขา สิ่งที่น่าแปลกไปกว่านั้นก็คือความฝันที่ทั้งคู่เห็นดันเป็นเรื่องราวที่เชื่อมต่อกันได้พอดี

 

สำหรับคนที่เคยติดตามซีรีส์เรื่องนี้คงรู้อยู่แล้วว่า เรื่องราวที่ดีนกับภามฝันเห็นคืออดีตชาติของตัวเอง ซึ่งในเวลานั้นทั้งคู่ใช้ชื่อว่า ‘กรณ์’ และ ‘อินทัช’ ทั้งสองคนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ตกหลุมรักกันแบบธรรมดาที่สุดเท่าที่คนสองคนจะรักกันได้ แต่สิ่งที่แปลกออกไปก็คือทัศนคติของคนนอกที่มองเข้ามา พร้อมตัดสินว่าความรักเพศเดียวกันเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับ กรณ์และอินทัชต้องทนกับแรงต้านมหาศาลจากพ่อของตัวเอง จนในที่สุดพวกเขาก็เลือกจบเรื่องนี้ลงด้วยการฆ่าตัวตาย 

 

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะด้ายแดงที่พวกเขาเคยผูกกันไว้ หรือเพราะคำสัญญาว่าต่อให้เกิดใหม่ก็จะหากันจนเจอกันแน่ ที่ทำให้ความทรงจำของกรณ์และอินทัชยังคงอยู่ในตัวของดีนและภามมาเสมอ สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไปทั้งคู่ก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ท่ามกลางสังคมและครอบครัวที่มีความเข้าใจและยอมรับความรักของผู้มีความหลากหลายทางเพศมากขึ้น 

 

 

ความนิยมของ ด้ายแดง เรียกได้ว่าโดดเด่นในช่วงเวลานั้น เพราะแค่การออกอากาศในอีพีแรก แฮชแท็ก #UWMAep1 ก็สามารถขึ้นสู่เทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ประเทศไทยได้อย่างสวยงาม เช่นเดียวกับอีกหลายๆ อีพีที่ก็มีแฮชแท็กติดเทรนด์อับดับ 1 ให้เห็นอยู่เรื่อยๆ

 

นอกจากกระแสและเนื้อหาที่ค่อนข้างโดดเด่นในตอนนั้นแล้ว ด้ายแดง ยังสามารถแจ้งเกิดนักแสดงได้มากมาย ไล่เรียงตั้งแต่ โอห์ม-ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ ในบท ดีน, ฟลุ๊ค-ณธัช ศิริพงษ์ธร ในบท ภาม, เก้า-นพเก้า เดชาพัฒนคุณ ในบท กรณ์, เอิร์ธ-กัษมนณัฏฐ์ นามวิโรจน์ ในบท อินทัช, บุ๋น-นพณัฐ กันทะชัย ในบท วิน, เปรม-วรุศ ชวลิตรุจิวงษ์ ในบท ทีม และอีกมากมาย ที่ต่างเติบโตขึ้นในวงการนี้อย่างก้าวกระโดด

 

หลังจากจบ ด้ายแดง ไป โอห์มและฟลุ๊คก็มีซีรีส์ให้เล่นคู่กันตามมาอีกหลายเรื่อง ได้แก่ เลิฟ@นาย Oh! My Sunshine Night, 609 Bedtime Story และ Close Friend โคตรแฟน 2 ในขณะที่เก้าก็มีผลงานซีรีส์ชื่อ นับสิบจะจูบ Lovely Writer The Series กับค่าย Dee Hup House และตอนนี้ก็กำลังถ่ายทำละครชุด ดวงใจเทวพรหม อยู่กับทางช่อง 3 ส่วนเอิร์ธเองก็เพิ่งมีผลงานเรื่อง ลุ้นรัก 12% ไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเช่นกัน

 

 

อีกหนึ่งปรากฏการณ์ของเรื่องนี้ก็คือความนิยมในคู่นักแสดง บุ๋น-นพณัฐ กันทะชัย และ เปรม-วรุศ ชวลิตรุจิวงษ์ หรือคู่วิน-ทีม ที่แม้จะโผล่มาให้ผู้ชมได้เห็นเป็นสีสันเพียงเล็กน้อย แต่ด้วยคาแรกเตอร์และเส้นเรื่องที่น่าสนใจก็ทำให้คู่นี้กลายเป็นที่พูดถึงในหมู่ผู้ชม และได้รับความนิยมไม่แพ้คู่หลักเลยทีเดียว

 

ความนิยมของบุ๋น-เปรมในฐานะวิน-ทีม ก็ทำให้ผู้ผลิตอย่าง Studio Wabi Sabi ประกาศทำซีรีส์ เชือกป่าน หรือ Between Us The Series แยกออกมาจาก ด้ายแดง เพื่อขยายเรื่องราวของวินและทีมให้ละเอียดยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นก็หมายรวมถึงการขยายจักรวาลของ ด้ายแดง ให้ใหญ่ขึ้น

 

แม้จะเป็นแผนการที่ประกาศออกไปแล้ว แต่ด้วยความที่นิยายเรื่อง เชือกป่าน โดย Lazysheep ยังแต่งไม่จบเนื่องจากข้อจำกัดหลายด้าน รวมถึงสุขภาพของนักเขียนเอง ทำให้ผู้ผลิตจำเป็นต้องให้เวลา Lazysheep ในการเขียนเรื่องนี้ ผนวกกับสถานการณ์โควิดที่ระบาดหนักในช่วงปี 2563-2564 ทำให้การถ่ายทำซีรีส์ เชือกป่าน ต้องเลื่อนไปมาอยู่หลายครั้ง 

 

ในที่สุดซีรีส์เรื่องนี้ก็ปักคิวออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 หรือประมาณ 3 ปีหลังจากซีรีส์ ด้ายแดง และได้รับผลตอบรับอย่างล้มหลามบนโลกทวิตเตอร์ ที่นอกจากจะทำให้แฮชแท็ก เชือกป่าน ขึ้นสู่อันดับหนึ่งเทรนด์ประเทศไทยและเทรนด์โลกได้เกือบทุกอีพีแล้ว แฮชแท็กนี้ยังค้างอยู่บนเทรนด์ต่อกันข้ามวันอีกด้วย

 

 

เชือกป่าน เป็นเรื่องราวของ ‘วิน’ รองประธานชมรมว่ายน้ำ และ ‘ทีม’ รุ่นน้องในชมรมดีกรีทีมชาติ ที่เริ่มต้นความสัมพันธ์กันแบบไม่เข้ารูปเข้ารอยนัก แต่ด้วยแรงดึงดูดบางอย่างผนวกกับอาการนอนไม่หลับของทีมที่รุนแรงขึ้นก่อนแข่งขันนัดสำคัญ ทำให้วินกลายเป็นทั้งที่พึ่งทางใจและที่ปรึกษาของทีมในหลายๆ ด้าน จนเกิดเป็นความสัมพันธ์แปลกๆ ที่ไม่มีชื่อเรียก ซึ่ง Lazysheep ก็เคยทวีตที่มาของชื่อเรื่องไว้ว่า 

 

เชือกป่าน เป็นชื่อที่ล้อมาจากด้ายแดงค่ะว่า ความสัมพันธ์คู่นี้ด้ายแดงเอาไม่อยู่ บางไป ต้องมัดด้วยเชือกป่าน

 

เรื่องราวของวินและทีมเป็นความสัมพันธ์ที่ต่างฝ่ายต่างปากแข็งและมีปมขนาดใหญ่ในใจ ทำให้ไม่สามารถพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา เหมือนกับว่าความกลัวทำให้พวกเขาดิ้นหนีกันไปมาจนต้องใช้เชือกหนาๆ มามัดไว้ ความสนุกของเรื่องนี้จึงเป็นการไหลไปพร้อมกับอารมณ์ของตัวละคร ที่เผยให้เห็นทั้งความรัก ความลังเล ความเสียใจ ความรู้สึกผิด ความหวั่นไหว ไปจนถึงความวาบหวามอย่างครบถ้วน ซึ่งถ้า ด้ายแดง คือการรอคอยเพื่อให้สังคมเข้าใจในความรัก เชือกป่าน คงเป็นการรอคอยเพื่อให้พวกเขาเข้าใจในตัวเอง

 

ซีรีส์ทั้งสองเรื่องนี้มีการรอคอยเป็นส่วนผสมหลัก ไม่ว่าจะเป็นการรอเวลาที่เหมาะสม การรอให้ความรู้สึกถูกปลดล็อก หรือการรอคอยของแฟนๆ ที่อยากเห็นบทสรุปของทุกความสัมพันธ์ ซึ่งในที่สุดการรอคอยตลอดหลายปีของทุกคนก็สิ้นสุดลงแล้ว เหมือนกับท่อนฮุกของเพลง I Found You ที่เราใช้เริ่มต้นบทความนี้

 

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2563 ตอนจบของ ด้ายแดง คือการที่ดีนได้ส่งต่อแหวนของอินทัชให้กับภาม และในวันที่ 29 มกราคม 2566 ตอนจบของ เชือกป่าน คือการที่วินและทีมจะว่ายน้ำข้างกันไปโดยไม่ต้องกังวลอะไรอีก ทั้งหมดนี้คือบทสรุปของอีกหนึ่งจักรวาลที่ใช้เวลาบ่มเพาะอย่างยาวนาน เป็นจักรวาลที่น่าจะผูกติดอยู่ในใจของผู้ชมเช่นเดียวกับคุณสมบัติของ ‘ด้ายแดง’ และ ‘เชือกป่าน’

 

 

ภาพ: @ohmthitiwat / Twitter, @iQIYI_Thailand / Twitter, @bb0un / Twitter

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X