วันนี้ (9 สิงหาคม) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เรียกประชุมวาระฉุกเฉิน กรณีการสู้รบในฉนวนกาซา ระหว่างกองทัพอิสราเอลและกองกำลังอิสลามญิฮาดของชาวปาเลสไตน์ ที่กลับมารุนแรงอีกระลอก
โดยกองทัพอิสราเอลโจมตีใส่ฉนวนกาซาต่อเนื่องนาน 3 วัน ตั้งแต่ช่วงปลายสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เบื้องต้นมีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 44 ราย เกือบครึ่งหนึ่งเป็นพลเรือน และในจำนวนนี้ 15 รายเป็นเพียงเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ นับเป็นการเปิดฉากโจมตีใส่ฉนวนกาซาที่รุนแรงที่สุด ต่อจากสงคราม 11 วันเมื่อปี 2021 ที่คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 250 ราย
แม้การสู้รบและความขัดแย้งดูเหมือนจะสงบลงจากความพยายามในการเจรจาหยุดยิง โดยมีอียิปต์ที่ได้รับการประสานความช่วยเหลือจากสหประชาชาติ และรัฐบาลกาตาร์ ช่วยอำนวยความสะดวกในการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ทอร์ เวนเนสแลนด์ ทูตพิเศษของสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคตะวันออกกลาง ระบุผ่านคลิปวิดีโอก่อนที่จะเริ่มต้นวาระการประชุมว่า การเจรจาหยุดยิงเป็นสิ่งที่เปราะบาง การกลับมาเริ่มสู้รบกันใหม่ไม่เพียงแต่จะสร้างผลลัพธ์เชิงลบต่ออิสราเอลและปาเลสไน์เท่านั้น แต่ยังทำให้ปัจจัยแวดล้อมทางการเมืองซับซ้อนมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย
โดยที่ประชุมได้แสดงความกังวลว่าเหตุการณ์นี้จะนำไปสู่การเผชิญหน้ากันทางทหารที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น และยิ่งทำให้สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาเลวร้ายลงไปอีก จึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางออกที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืนให้แก่วิกฤตความขัดแย้งที่เรื้อรังนี้
ภาพ: Majdi Fathi / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง: