กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ เตือนสถาบันการเงินในต่างประเทศว่าอาจเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในเร็วๆ นี้ หากพวกเขาทำธุรกรรมกับบุคคลที่มีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ลิดรอนสิทธิเสรีภาพและการปราบปรามผู้ประท้วงในฮ่องกง
ในรายงานที่ส่งถึงสภาคองเกรส กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุรายชื่อบุคคล 10 คน หนึ่งในนั้นคือ แคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงที่ถูกลงโทษคว่ำบาตรจากกรณีการปราบปรามผู้ประท้วงไปก่อนหน้านี้ โดยภายใน 60 วันข้างหน้า รัฐบาลจะเผยรายชื่อสถาบันการเงินที่มีการทำธุรกรรมที่สำคัญกับบุคคลในแบล็กลิสต์เหล่านี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นมาตรการล่าสุดที่สหรัฐฯ ใช้ตอบโต้จีนจากกรณีของฮ่องกง หลังจากก่อนหน้านี้จีนได้ประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่เปิดทางให้ทางการจีนและฮ่องกงจับกุมและดำเนินคดีกับผู้เห็นต่าง หากเข้าข่ายความผิดยุยง ปลุกปั่น พยายามแบ่งแยกดินแดน หรือสมคบคิดต่างชาติเพื่อบ่อนทำลายความมั่นคงและอธิปไตยของจีน โดยวอชิงตันมองว่ากฎหมายนี้ลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและขัดต่อหลักการ ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ ที่จีนให้ไว้เมื่อตอนรับมอบเกาะฮ่องกงคืนจากอังกฤษ
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาจีนประณามมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ เหล่านั้น โดยระบุว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน
รายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนตึงเครียดในทุกมิติ โดยสองประเทศมหาอำนาจทำสงครามการค้าอย่างดุเดือดในปีที่แล้ว และแม้ว่าสองฝ่ายจะทำข้อตกลงการค้าฉบับแรกไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ก็ทำให้สองชาติบาดหมางกันต่อ เนื่องจากสหรัฐฯ มองว่าจีนเป็นต้นเหตุที่ทำให้ไวรัสแพร่ระบาดไปทั่วโลก รวมถึงสหรัฐฯ นอกจากนี้สหรัฐฯ และจีนยังทำสงครามเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง และขัดแย้งกันในประเด็นสิทธิมนุษยชนในฮ่องกงและเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเจียง รวมถึงปัญหาพิพาทในทะเลจีนใต้
ในรายงานระบุว่าสถาบันการเงินหรือธนาคารอาจถูกคว่ำบาตรในระดับรอง ซึ่งรวมถึงการจำกัดการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ควบคุมธุรกรรมบางอย่าง รวมถึงการส่งออกและโอนเงิน นอกเหนือไปจากมาตรการลงโทษผู้บริหารของสถาบันการเงินเหล่านั้น โดยก่อนหน้านี้นักการเมืองอาวุโสของสหรัฐฯ และอังกฤษหลายคนได้วิจารณ์ธนาคาร HSBC และ Standard Chartered หลังธนาคารเหล่านี้แสดงท่าทีสนับสนุนกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของจีนในฮ่องกง
“การออกรายงานฉบับนี้ตอกย้ำจุดยืนของสหรัฐฯ ในการคัดค้านพฤติกรรมที่จงใจทำลายเสรีภาพของประชาชนในฮ่องกง รวมถึงการออกนโยบายที่กดขี่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน” มอร์แกน ออร์เตกัส โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: