วันนี้ (18 กันยายน) สถานการณ์ไฟป่าในรัฐทางทิศตะวันตกของสหรัฐอเมริกายังคงวิกฤต โดยเฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐออริกอน หลังไฟป่าปะทุรุนแรงนานร่วมเดือน เนื่องจากคลื่นรังสีความร้อนที่แผ่ปกคลุมประเทศและอิทธิพลของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 30 ราย พลเมืองหลายหมื่นรายต้องอพยพออกจากที่พักอาศัย
องค์การ NASA เผยว่าฝุ่นควันที่เกิดจากวิกฤตไฟป่าถูกพัดกระจายปกคลุมทั่วประเทศ และเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ของแคนาดาและหลายประเทศในยุโรปแล้ว ทางการสหรัฐฯ ระบุว่าในปีนี้วิกฤตไฟป่าได้เผาทำลายพื้นที่ไปแล้วกว่า 6.7 ล้านเอเคอร์ (ราว 17 ล้านไร่) และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจสูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.23 แสนล้านบาท)
โดยขณะนี้มีไฟป่ามากกว่า 100 จุดใหญ่ที่กำลังลุกลามอยู่ทางตะวันตกของสหรัฐฯ ทางการส่งนักดับเพลิงหลายพันนายเข้าควบคุมสถานการณ์และจำกัดวงความเสียหายให้แคบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งในปีนี้แคลิฟอร์เนียคาดว่าจะเป็นรัฐที่ผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุด โดยทั่วไปช่วงฤดูไฟป่าจะปะทุรุนแรงไปจนถึงเดือนตุลาคมหรืออาจยาวนานกว่านั้น
ภาพ: David McNew / Getty Images
ภาพ: Mario Tama / Getty Images
ภาพ: Brian van der Brug / Los Angeles Times via Getty Images
ภาพ: Stanton Sharpe / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: