ประสบการณ์การใช้งาน WiFi บนเครื่องบินของลูกค้า United Airlines กำลังจะถูกอัปเกรดครั้งใหญ่ เมื่อดาวเทียม Starlink ของบริษัท SpaceX บรรลุดีลธุรกิจกับสายการบินรายนี้เพื่อเตรียมแผนทยอยติดตั้งอุปกรณ์ของ Starlink ในอากาศยานกว่า 1,000 ลำ
United Airlines แถลงว่า สายการบินจะเริ่มทดสอบการให้บริการระบบ WiFi ดังกล่าวในช่วงต้นปี 2025 โดยบริษัทคาดว่าเครื่องบินโดยสารลำแรกจะสามารถใช้งาน WiFi ความเร็วสูงจาก Starlink ได้ในปลายปีหน้า โฆษกของ United Airlines กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่เราจะสามารถให้บริการลูกค้าทุกคนของสายการบินเราได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย”
การประกาศนี้ของ United Airlines ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้อุตสาหกรรมการบิน โดยเฉพาะกับกลุ่มนักเดินทาง เนื่องจากการใช้งาน WiFi บนเครื่องบินในปัจจุบันอาจมีความล่าช้าและไม่เสถียร แต่ United Airlines กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนเกม ให้ผู้โดยสารเข้าใช้อินเทอร์เน็ตราวกับว่าใช้งานอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงาน
The Wall Street Journal รายงานว่า ความเร็วของอินเทอร์เน็ตบนเครื่องบินจากเทคโนโลยีนี้สามารถทำได้กว่า 100 Mbps บนการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Starlink ทำให้ผู้โดยสารสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นการใช้บริการสตรีมมิงส่วนตัวเพื่อรับชมคอนเทนต์ต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องโหลดคอนเทนต์มาก่อนล่วงหน้า หรือจะดาวน์โหลด/อัปโหลดเอกสาร และแก้ไขไฟล์ได้แบบเรียลไทม์เพื่อทำงาน ซึ่งผู้โดยสารจะสามารถเชื่อม WiFi กับอุปกรณ์หลายเครื่องได้ในเวลาเดียวกัน
ปัจจุบันเทคโนโลยี WiFi ดังกล่าวมีให้บริการสำหรับผู้โดยสารของสายการบิน Hawaiian Airlines ในบางเที่ยวบินเท่านั้น แต่การขยายบริการมาสู่สายการบินชั้นนำของสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบในแง่การแข่งขันของทั้งอุตสาหกรรมให้ต้องเร่งเครื่องและพัฒนาคุณภาพบริการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับเครื่องบิน
อย่างไรก็ดี คู่แข่งรายอื่นในธุรกิจการบินก็กำลังเร่งพัฒนาบริการนี้อยู่ โดย The Verge รายงานว่า สายการบินระหว่างประเทศหลายรายได้ประกาศแผนการติดตั้ง Starlink WiFi ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสายการบิน WestJet วางแผนที่จะใช้ Starlink บนเครื่องบินบางลำภายในเดือนธันวาคมปีนี้
รวมถึง Qatar Airways ที่วางแผนจะเปิดตัวบริการ Starlink WiFi ฟรีบนเครื่องบิน Boeing 777-300 จำนวน 3 ลำในปลายปีนี้ ส่วน Air New Zealand ตั้งเป้าที่จะเปิดตัว Starlink ในฝูงบินภายในประเทศในปี 2025
นอกจากนี้ผลการสำรวจของ Inmarsat เผยว่า 82% ของผู้โดยสารมีแนวโน้มที่จะกลับมาใช้บริการสายการบินอีกครั้งหากว่าพวกเขามีประสบการณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ราบรื่น และ 79% เลือกที่จะเชื่อมต่อ WiFi หากสามารถทำได้ หมายความว่าหนึ่งในเทรนด์สำคัญผู้บริโภคของสายการบินคือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างเที่ยวบิน
สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่กำลังจะอยู่บนเครื่องมีความแรงระดับที่สำนักข่าว CBS ระบุว่า “ดีลใหม่นี้น่าจะทำให้ผู้โดยสารสามารถประชุมจากบนฟ้าได้ ซึ่งมันจะเป็นการกำหนดบรรทัดฐานใหม่ของคำว่า ‘Remote Work’ ถ้าเทคโนโลยีนี้ใช้งานอย่างแพร่หลายจริง”
อ้างอิง: