สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) และองค์กรพันธมิตร ยกระดับการรับมือในค่ายผู้ลี้ภัยเมืองค็อกซ์ บาซาร์ ประเทศบังกลาเทศ หลังพบผู้ป่วยโควิด-19 ในกลุ่มผู้ลี้ภัยเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา UNHCR ทำงานร่วมกับองค์กรพันธมิตรต่างๆ โดยให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมและการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสตามมาตรการของรัฐบาลบังกลาเทศมาโดยตลอด การรับมือหลังพบการติดเชื้อเป็นครั้งแรกเป็นไปตามมาตรการที่ได้เตรียมไว้ และจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากนานาชาติ
ข้อมูลจากรัฐบาลบังกลาเทศพบว่า ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจา 1 คนในที่พักพิงผู้ลี้ภัยกูตูปาลอง ประเทศบังกลาเทศ พบผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก และมีชาวบังกลาเทศอีก 1 คน ตรวจพบเชื้อเป็นผลบวกด้วยเช่นกัน หลังจากทั้งสองคนได้ขอเข้าไปทดสอบการตรวจเชื้อที่สถาบันระบาดวิทยา การควบคุมโรค และการวิจัย บังกลาเทศ (IEDCR) ในค็อกซ์ บาซาร์
จากการยืนยันผลตรวจของสถาบัน ได้มีการจัดตั้งฝ่ายสืบสวนเร่งด่วน เพื่อติดตามผลของการติดเชื้อในครั้งนี้ มีการแยกตัวและแยกรับการรักษา รวมถึงการสืบประวัติการติดต่อและสัมผัสกับบุคคลอื่น เพื่อกักตัวและทดสอบตามขั้นตอนการปฏิบัติขององค์การอนามัยโลก (WHO)
จากข้อมูลเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 มีผู้ลี้ภัยได้รับการตรวจเชื้อไวรัสในเมืองค็อกซ์ บาซาร์ รวมแล้ว 108 คน นับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาอาศัยอยู่ในพื้นที่พักพิงมากถึง 8.6 แสนคน และยังมีชาวบังกลาเทศอีกกว่า 4 แสนคน ที่อาศัยอยู่ในเขตชุมชนที่ให้ที่พักพิงโดยรอบ การอยู่อาศัยในพื้นที่หนาแน่นเช่นนี้ยังความกังวลและผลกระทบที่อาจตามมาอย่างรุนแรงเป็นอย่างมาก พวกเขาเหล่านี้ถือเป็นหนึ่งในบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่สุดในโลกในวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสครั้งนี้ ในพื้นที่ชุมชนที่แออัดและโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำสะอาดและสุขอนามัยที่มีจำกัด ความพยายามในการรับมือกับการติดเชื้อต้องเป็นไปอย่างรอบด้านมากที่สุด เพื่อเลี่ยงอัตราการเสียชีวิต
จากการสนับสนุนด้านสาธารณสุขของรัฐบาล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและผลกระทบของโควิด-19 UNHCR และองค์กรพันธมิตรต่างๆ ได้เตรียมมาตรการการเตรียมพร้อมและป้องกันมาตั้งแต่เดือนมีนาคม มีการวางมาตรการการรับมือผู้ที่อาจติดเชื้อและผู้ติดโควิด-19 สำหรับชุมชนที่ให้ที่พักพิงและผู้ลี้ภัยในค็อกซ์ บาซาร์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในสถานพยาบาลทุกแห่งในค่ายได้รับการอบรมขั้นตอนการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ และการใช้อุปกรณ์ป้องกันและคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลอย่างทั่วถึง
บุคลากรในสถานพยาบาลกว่า 250 คน ได้รับการฝึกอบรมเรื่องการเตือนภัยล่วงหน้า และการรับมือในภาวะฉุกเฉิน และยังมีอาสาสมัครผู้ลี้ภัยมากกว่า 3,000 คน ที่เข้ารับการฝึกอบรมความรู้เกี่ยวกับโควิด-19 รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขชุมชน ผู้ดูแลชุมชนที่ปฏิบัติงานเชิงรุก และผู้นำอิหม่ามของแต่ละชุมชนและกลุ่มประชาสังคมที่คอยประสานงานภายในค่าย เพื่อถ่ายทอดข้อความสำคัญแก่ผู้ลี้ภัยให้ทั่วถึง
การสื่อสารภายในค่ายและชุมชนที่ให้ที่พักพิงจัดขึ้นผ่านวิทยุกระจายเสียง วิดีโอ โปสเตอร์ และการส่งข้อความในภาษาโรฮีนจา พม่า และเบงกาลี เพื่ออธิบายเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส การป้องกันตัวเองและครอบครัว การสังเกตอาการ และการขอความช่วยเหลือ
มีการส่งเสริมการดูแลสุขอนามัยในเขตที่พักพิง อีกทั้งองค์กรพันธมิตรต่างๆ ได้ช่วยจัดหาน้ำสะอาดและสบู่ให้พร้อมอยู่เสมอ และมีมาตรการเพิ่มจุดล้างมือที่ศูนย์แจกจ่าย จุดอนามัย จุดรับอาหาร และกำลังเพิ่มเติมตามสถานที่อื่นๆ ที่เราให้บริการ มีการสนับสนุนจากพันธมิตรด้านมนุษยธรรมในการติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตภายในค่าย เพื่อให้ผู้ลี้ภัยเข้าถึงข้อมูลที่เพียงพอ และเป็นการเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับองค์กรพันธมิตรต่างๆ ด้วยเช่นกัน
องค์กรพันธมิตรด้านน้ำสะอาด สุขอนามัย และสุขภาพ จัดกิจกรรมส่งเสริมการดูแลสุขอนามัยภายในค่ายเป็นประจำ มีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคพื้นที่ส่วนรวมและบริเวณใกล้เคียงทั่วทั้งค่าย มีการรักษาระยะห่างทางสังคมและการล้างมือทุกจุดการให้บริการ และกำลังจัดตั้งศูนย์แยกตัวและให้การรักษาเฉพาะอย่างเร่งด่วนขึ้นใหม่ แยกออกจากศูนย์อนามัยสำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรง
แม้ว่าจะมีการเตรียมการรับมือกับโควิด-19 ในพื้นที่พักพิงผู้ลี้ภัยไว้แล้ว แต่การรับมือจริงในระยะปัจจุบันต้องการการปฏิบัติและความร่วมมืออย่างเคร่งครัดเพื่อให้การรักษาผู้ป่วยเป็นไปได้อย่างทันท่วงที ชุมชนได้รับข่าวสารและมีการติดต่ออย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันการระบาดเพิ่มเติม
การช่วยเหลือที่รวดเร็วและความพร้อมจากรัฐบาล ภาคเอกชน และบุคคลทั่วไปยังคงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดในการทำงานเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 แก่ผู้ลี้ภัยและชุมชนที่ให้ที่พักพิงในบังกลาเทศ รวมถึงในประเทศอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันแผนความร่วมมือด้านมนุษยธรรมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ของผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาได้รับงบประมาณเพียงร้อยละ 26
ท่านสามารถร่วมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในกลุ่มผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นกับ UNHCR ได้ที่ http://unh.cr/5e69e77f1d2
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ได้ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum