ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของสหประชาชาติ เผยว่าพวกเขากำลังตรวจสอบความเป็นไปได้ถึงการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่สหประชาชาติมีต่อเกาหลีเหนือในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในแถบตะวันออกกลางและแอฟริกา นับตั้งแต่ข่าวลือเรื่องการจัดหาอาวุธนิวเคลียร์ให้กับมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ผู้เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดเพียงหนึ่งเดียวของเกาหลีเหนืออย่างจีน การเป็นนายหน้าค้าอาวุธให้กับรัฐบาลของ นายบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย รวมถึงการสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารในอิหร่าน ลิเบีย และซูดาน
นอกจากนี้ยังมีการระบุว่าเกาหลีเหนือได้ใช้ไซเบอร์แอทแทคโจมตีสถาบันทางการเงินและสถาบันแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตต่างๆ รวมถึงยืนยันว่าโครงการพัฒนาและทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือยังคงดำเนินต่อไป และไม่ได้รับผลกระทบจากการรื้อและทำลายไซต์งานที่ผ่านๆ มา
ในอีกหลายๆ ประเทศ รวมถึงประเทศที่ไม่ได้ถูกเอ่ยชื่อยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอิหร่านซึ่งถือเป็นหนึ่งในตลาดที่น่าจะสร้างกำไรให้แก่เกาหลีเหนือได้เป็นอย่างดี ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากชาวเกาหลีเหนือจำนวนไม่น้อยที่อาศัยอยู่ที่อิหร่าน ในขณะที่บริษัท Namchogang Trading Corp. และ Namhung Trading Corp. ก็จะถูกตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับความพยายามในการจัดซื้อจัดหาและพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของจีนผ่านรัฐนิวเคลียร์อย่างเกาหลีเหนือ
โดยทางด้านรัฐบาลอิหร่านออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมระบุว่าชาวเกาหลีเหนือที่อาศัยอยู่ในอิหร่านล้วนแต่เป็นเจ้าหน้าที่ทางการทูตแทบทั้งสิ้น และยืนยันว่าอิหร่านไม่ได้ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติที่มีต่อเกาหลีเหนือแต่อย่างใด
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: