เจ้าหน้าที่สหประชาชาติเปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบกรณีเกาหลีเหนือทำการโจมตีทางไซเบอร์อย่างน้อย 35 ครั้ง ใน 17 ประเทศหลายทวีปทั่วโลก เพื่อระดมเงินทุนผิดกฎหมายสนับสนุนโครงการอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง (WMD) โดยรวบรวมเป็นเงินแล้วกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 6.2 หมื่นล้านบาท)
จากข้อมูลระบุว่า เกาหลีใต้เป็นประเทศที่ถูกโจมตีทางไซเบอร์สูงถึง 10 ครั้ง ตามมาด้วยอินเดีย 3 ครั้ง บังกลาเทศและชิลี 2 ครั้ง ในขณะที่อีก 13 ประเทศ ถูกโจมตีอย่างน้อย 1 ครั้ง ซึ่งมีประเทศเพื่อนบ้านของไทยอย่างมาเลเซียและเวียดนามรวมอยู่ด้วย
โดยการโจมตีทางไซเบอร์ส่วนใหญ่จะโจมตีผ่านระบบสื่อสารด้านการเงินระหว่างธนาคารผ่านระบบคอมพิวเตอร์ที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงทั่วโลก ที่ให้บริการโดย Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication (SWIFT) รวมถึงการโจมตีสถาบันการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ซึ่ง Bithumb หนึ่งในผู้สนับสนุนการใช้สกุลเงินดิจิทัลรายใหญ่ของเกาหลีใต้ตรวจพบการโจมตีทางไซเบอร์ถึง 4 ครั้ง ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา รวมมูลค่าความเสียหายราว 65 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2 พันล้านบาท)
ทั้งนี้ สหประชาชาติยังเรียกร้องให้นานาชาติดำเนินมาตรการคว่ำบาตรเรือบรรทุกน้ำมันดีเซลและเบนซินที่เตรียมส่งมายังเกาหลีเหนืออีกด้วย เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการลดทอนประสิทธิภาพของแผนการเกาหลีเหนือ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประชาคมโลก
ภาพ: BeeBright / Shutterstock
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: