หากใครเข็ดขยาดการทาครีมกันแดดด้วยเหตุผลที่ว่า ทาแล้วเหนียวเหนอะหนะ, ทาแล้วผิวไม่เป็นธรรมชาติ เพราะแลดูขาววอก หรือทาแล้วแต่งหน้ายากเป็นคราบ ฯลฯ อาจต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ได้แล้ว เพราะยุคนี้มีแบรนด์ความงามเก่งๆ ที่คิดค้นและพัฒนาสูตรกันแดดมาเพื่อเอาชนะปัญหาจุกจิกเหล่านั้น ให้ทุกคนสามารถหยิบครีมกันแดดมาทาได้ทุกวันอย่างมีความสุข และแบรนด์ที่ทำได้ดีมากๆ ในเรื่องนี้ต้องยกให้ ULTRA VIOLETTE แบรนด์ผลิตภัณฑ์กันแดดจากประเทศออสเตรเลียที่มีที่มาน่าสนใจมาก
เราอาจเคยเห็น Founder ของหลายๆ แบรนด์สร้างแบรนด์ด้วยแพสชันที่รักในสิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่สำหรับแบรนด์ ULTRA VIOLETTE สร้างแบรนด์ขึ้นมาจากความรู้สึกที่ไม่ชอบการทาครีมกันแดดด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีตามท้องตลาด เพราะมันไม่สบายผิวและเหนียวเหนอะหนะ ดังนั้นทั้ง Bec Jefferd และ Ava Matthews ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ULTRA VIOLETTE จึงแท็กทีมกันเพื่อสร้างสรรค์ครีมกันแดดที่ตอบโจทย์คนทั่วไปให้สามารถทาครีมกันแดดได้อย่างสบายใจ ง่าย สะดวก และมีความสุขในทุกๆ วัน
LIFE จะพาทุกคนไปรู้จักกับ ULTRA VIOLETTE ให้มากขึ้น
What is it?
แบรนด์ ULTRA VIOLETTE เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีชื่อเสียงจากประเทศออสเตรเลีย โดยมี Bec Jefferd และ Ava Matthews เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมงานกันที่ MECCA Cosmetica ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกด้านความงามรายใหญ่ของออสเตรเลีย แล้วอยู่ๆ ก็เกิดปิ๊งขึ้นมาในตอนนั้น เพราะรู้สึกว่าครีมกันแดดในท้องตลาดที่เห็นมันไม่มีอะไรที่เซ็กซี่เลย ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ รูปลักษณ์ กลิ่น สัมผัส ไปจนถึงจุดขายที่ไม่ดึงดูด ทั้งที่ครีมกันแดดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดในการดูแลผิวพรรณและความงาม อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่แพทย์ผิวหนังทุกคนมักบอกตรงกันว่า ครีมกันแดดจะต้องทาทุกวันนะ แต่ยังไม่มีใครทำให้มันเป็นประสบการณ์ที่ดี Ava Matthews จึงเห็นว่า ครีมกันแดดยังไม่ค่อยถูกเลือกให้ใช้งานร่วมเลเยอร์กับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้อย่างง่ายดายเท่าที่ควร รวมถึงวิธีที่ผู้หญิงนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวันก็ไม่ตอบโจทย์ ทำให้ทั้งคู่ก่อตั้งแบรนด์ ULTRA VIOLETTE ขึ้นมา และใช้เวลานานถึง 3 ปีเต็มในการพัฒนาสูตร
The Ingredients
ส่วนผสมเด่นๆ ที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดของ ULTRA VIOLETTE ประกอบด้วยไนอะซินาไมด์, วิตามินซี, วิตามินอี, ว่านหางจระเข้, Bisabolol และสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ เช่น Ethylhexyl Methoxycinnamate (10%), Ethylhexyl Salicylate (5%), Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine (4%), Methylene Bis-benzotriazolyl Tetramethylbutylphenol (2%) Aqua / Water / Eau, Butylene Glycol, Caprylic / Capric Triglyceride และ Titanium Dioxide เป็นต้น
The Product Range
ไอเท็มเด่นๆ ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่คือ Fave Fluid™ SPF50+ Ultralight Skinscreen™ เป็นกันแดดเนื้อบางเบาสูตรปราศจากน้ำหอม มอบฟินิชผิวนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ มี SPF 50+ ช่วยปกป้องผิวโดยไม่หนักผิวหรือเหนียวเหนอะหนะ
ความพิเศษคือค่า SPF เป็นสูตรบางเบาที่สุดเท่าที่เคยมีมา มีส่วนผสมจากไนอะซินาไมด์, วิตามินซี, วิตามินอี และสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ที่ทำงานร่วมกัน เพื่อจัดการกับเม็ดสี รูขุมขน และผิวสัมผัสที่ดีขึ้นในขณะที่ช่วยให้ผิวโกลว เนื้อเรียบเนียน และบางเบา ช่วยให้เกิดสัมผัสที่เบาสบายผิว
Preen Screen SPF50 Reapplication Mist เป็นสเปรย์กันแดดมีค่า SPF 50 ที่ มอบความเปล่งประกายบนผิว ช่วยดูแลผิวให้ปลอดภัยจากการทำลายรังสียูวี เป็นไอเท็มที่ช่วยให้การทากันแดดนั้นรวดเร็วและใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลา สามารถฉีดสเปรย์ลงบนผิวที่แต่งหน้าโดยไม่ต้องกลัวเมกอัพไหลเยิ้ม เพราะสเปรย์เป็นหมอกเนื้อละเอียดและบางเบา จะค่อยๆ กระจายตัวทั่วผิวอย่างอ่อนโยน
The Sustainability Efforts
เมื่อเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว ผู้เขียนมีโอกาสได้ส่งคำถามถึง Ava Matthews ผู้ก่อตั้งแบรนด์ และถามคำถามเกี่ยวกับความยั่งยืนที่เป็นวาระสำคัญยิ่งในอุตสาหกรรมความงาม เราอยากรู้ว่าแบรนด์ ULTRA VIOLETTE มีแผนอย่างไรในด้าน Sustainability และคำตอบที่เราได้จาก Ava Matthews คือ
“Sustainability คือสิ่งที่อยู่ในความคิดลำดับต้นๆ ของเราเลย เราต้องการให้สิ่งที่เราทำกับ ULTRA VIOLETTE มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น บรรจุภัณฑ์แบบ PCR (การนำพลาสติกที่ใช้งานแล้วมาผ่านกระบวนการรีไซเคิลเป็นเม็ดพลาสติกและขึ้นรูปเป็นสินค้า เพื่อใช้งานโดยตรง ซึ่งเม็ดพลาสติกรีไซเคิลที่ได้จะเรียกว่า Post-Consumer Recycled (PCR) Resin และมีการใช้งานโดยผสมกับพลาสติกใหม่หรือปรับแต่งคุณสมบัติด้วยสารเติมแต่ง เพื่อให้ได้คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ) ที่เราสามารถใช้ได้นั้นไม่แข็งแรงเพียงพอสำหรับผลิตภัณฑ์ SPF ค่าสูงๆ
“เราเพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ไซส์ใหญ่ขึ้น เริ่มที่ออสเตรเลียก่อน (ในปี 2023 จะทยอยสู่ทั่วโลก) ดังนั้นผู้บริโภคก็จะใช้บรรจุภัณฑ์น้อยลง เรายังใช้ Recyclable Card สำหรับการขนส่งบรรจุภัณฑ์ทางอีคอมเมิร์ซทั้งหมด และได้บริจาคเพื่อการกุศลอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงการที่เราเป็นพาร์ตเนอร์กับสององค์กรอย่าง Black Friday และ Cyber Monday ด้วย
“เมื่อเร็วๆ นี้เราได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืนภายในทีม เพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของเรา และมั่นใจว่าเรื่อง Sustainability จะยืนหนึ่งในใจเราเสมอ”
