วันนี้ (18 สิงหาคม) พาฟโล โอเรล อุปทูตยูเครนประจำประเทศไทย แถลงข่าวร่วมกับ โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ณ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ถนนวิทยุ เนื่องในโอกาสวันชาติ หรือวันประกาศเอกราชจากสหภาพโซเวียตครบรอบ 32 ปีที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ โดยกล่าวถึงสถานการณ์สงครามที่เกิดจากการรุกรานของรัสเซียว่า แม้จะเผชิญกับความเลวร้ายและการทำลายล้างจากรัสเซียที่กระทำต่อยูเครน แต่ประชาชนยูเครนกลับยิ่งมีความสามัคคี ความแข็งแกร่ง และมั่นใจว่าจะมีชัยชนะเหนือผู้รุกราน
อุปทูตโอเรลกล่าวว่า สงครามอันป่าเถื่อนในวันนี้ซึ่งเกิดขึ้นกับยูเครนทั้งที่ปราศจากการยั่วยุ เป็นความทะเยอทะยานของแนวคิดล่าอาณานิคมในยุคใหม่ของรัฐบาลเครมลิน
โดยเขาชี้ว่า แผนของรัสเซียที่จะยึดครองยูเครนทั้งประเทศจะไม่มีวันเกิดขึ้น เนื่องจากฝ่ายสนับสนุนยูเครนทั่วโลกยังคงแข็งแกร่ง
“แผนของรัสเซียที่จะยึดครองยูเครนทั้งหมดที่ทำลายความเป็นรัฐและลบตัวตนของเราจะไม่มีทางเป็นจริง ฝ่ายสนับสนุนยูเครนบนโลกนี้จะยังคงแข็งแกร่งและมั่นคง” เขากล่าว
ขณะที่ชัยชนะของยูเครนเหนือสงครามนี้หมายถึงการปลดปล่อยทั้งประเทศและประชาชนจากการยึดครองของรัสเซีย รวมทั้งฟื้นฟูอธิปไตยของยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้อุปทูตยูเครนระบุว่า สงครามในยูเครนไม่ได้เพิ่งเกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 แต่แท้จริงแล้วเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2014 จากการรุกรานและผนวกรวมแคว้นไครเมีย โดยการปลดปล่อยคาบสมุทรไครเมียจากการยึดครองของรัสเซีย จะเป็นสิ่งเดียวที่รับประกันความมั่นคงในภูมิภาคอะซอฟ-ทะเลดำ และจะทำให้การส่งออกธัญพืชยูเครนผ่านทะเลดำกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง ซึ่งหากนานาชาติช่วยกันในการยับยั้งการกระทำอันเลวร้ายของรัสเซีย ก็จะช่วยป้องกันการเกิดวิกฤตอาหารทั่วโลกได้
สำหรับแผนสันติภาพที่อาจเป็นความหวังในการยับยั้งสงคราม อุปทูตโอเรลกล่าวว่า แผนสันติภาพที่เสนอโดยประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ซึ่งเน้นย้ำข้อเรียกร้องในการฟื้นฟูบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน และให้รัสเซียถอนกำลังทหารทั้งหมดออกไป ยังคงเป็นแผนสันติภาพเดียวที่ครอบคลุมและเป็นไปได้จริง รวมถึงรับประกันความมั่นคงและความยุติธรรมของประชาคมโลกทั้งหมด