Bloomberg รายงานอ้างอิงแหล่งข่าววงในของรัฐบาลอังกฤษว่า เจเรมี ฮันต์ (Jeremy Hunt) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอังกฤษ เตรียมเสนอแผนลดหน่อยภาษีให้แก่ภาคธุรกิจเป็นเวลา 3 ปี คิดเป็นมูลค่าราว 11,000 ล้านปอนด์ ในการขึ้นแถลงงบประมาณประจำปีในวันที่ 15 มีนาคมนี้ โดยแผนการดังกล่าวจะมาแทนที่มาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อการลงทุนแบบชั่วคราว
รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับท่าทีของฮันต์ที่ยืนกรานมาโดยตลอดว่าการลดหย่อนภาษีธุรกิจเป็นสิ่งที่เจ้าตัวให้ความสำคัญมากที่สุด ขณะเดียวกัน แผนการลดหย่อนใหม่ยังอยู่ภายใต้กรอบนโยบายการคลังที่เจ้าตัววางไว้
ก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษได้ขึ้นภาษีนิติบุคคลจาก 19% เป็น 25% ท่ามกลางเสียงเตือนว่าการขึ้นภาษีดังกล่าวจะเป็นการขัดขวางการลงทุน ฉุดให้เศรษฐกิจอังกฤษที่แย่อยู่แล้วจากปัญหาเงินเฟ้อและหนี้สูงเผชิญกับภาวะถดถอย
แม้ว่า รมว.คลังอังกฤษ จะชี้แจงว่า ภายใต้ระเบียบกฎเกณฑ์ที่ให้จ่ายภาษีแบบเต็มจำนวน บริษัทต่างๆ จะยังคงสามารถประหยัดเงินภาษีได้ 25 เพนนี สำหรับเงินทุกๆ 1 ปอนด์ที่บริษัททั้งหลายได้ลงทุนไป แต่ภาคเอกชนส่วนใหญ่ต่างเห็นว่ามาตรการดังกล่าวไม่ได้ช่วยเหลือการดำเนินธุรกิจสักเท่าไรนัก และส่วนใหญ่มองว่าแผนการลดภาษีโดยแลกกับการใช้จ่ายของภาคธุรกิจในช่วงที่ผ่านมาเป็นต้นทุนที่แพงเกินไป
ทั้งนี้ แผนภาษีธุรกิจของฮันต์ไม่ใช่การลดหย่อนภาษีโดยตรง แต่เป็นการลดหย่อนด้วยการเปิดทางให้บริษัทต่างๆ สามารถหัก 130% ของการใช้จ่ายด้านการลงทุนออกจากกำไรที่ต้องเสียภาษีได้สำหรับนิติบุคคลที่ต้องเสียภาษี 19% และนิติบุคคลที่เสียภาษี 25% จะได้รับการหักภาษีค่าใช้จ่ายที่ 100%
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าววงในย้ำว่า ฮันต์จะจำกัดการผ่อนปรนไว้ที่ 3 ปี เพื่อหวังลดทอนกระแสต้านจากสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมที่ต้องการให้รัฐเพิ่มการจัดเก็บภาษีเพื่อรักษาดุลการคลัง
หลายเดือนก่อนหน้านี้ภาคธุรกิจทั้งหลายต่างออกโรงเตือนรัฐบาลอังกฤษว่า ภาวะช็อกสองครั้งซ้อนเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาจากการขึ้นภาษี ได้กระตุ้นให้บรรดาบริษัทต่างๆ เปลี่ยนจุดหมายการลงทุนจากสหราชอาณาจักรไปยังประเทศอื่นแทน ซึ่งทำให้เศรษฐกิจอังกฤษที่ล้าหลังกว่าสหรัฐฯ และยุโรปอยู่แล้วยิ่งล้าหลังเข้าไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ทั้งสหรัฐฯ และยุโรปต่างออกมาตรการอุดหนุนการลงทุนมูลค่าหลายแสนล้านปอนด์เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก
รายงานระบุว่า ในปี 2022 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ริชี ซูนัค (Rishi Sunak) ประกาศอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการลงทุนทางธุรกิจว่าเป็นวิสัยทัศน์ทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ก่อนที่ในเดือนพฤศจิกายนจะอนุมัติงบสนับสนุนการลงทุนประจำปีมูลค่า 1 ล้านปอนด์ พร้อมมองหาเขตลงทุนพิเศษภาษีต่ำเพื่อยกระดับภูมิภาคที่ยากจนของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแผนงบประมาณใช้จ่ายแบบเต็มจำนวนของรัฐบาลอังกฤษ หลายฝ่ายรวมถึงหน่วยงานเฝ้าระวังการใช้จ่ายของรัฐบาลต่างเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้
ขณะเดียวกัน แม้ว่าหลายฝ่ายจะต้องการเห็นมาตรการระยะยาวหรือมาตรการถาวรมากกว่าชั่วคราว นักวิเคราะห์ต่างเห็นตรงกันว่าอาจจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เพราะอังกฤษจะมีการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในเดือนมกราคม ปี 2025 ดังนั้นมาตรการทางเศรษฐกิจทั้งหมดล้วนเป็นมาตการชั่วคราวที่รัฐบาลสามารถเสนอได้ในเวลานี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เปิดความท้าทายในสมรภูมิเศรษฐกิจของ ริชิ ซูนัค นายกฯ อังกฤษคนใหม่
- ชวนรู้จัก ลิซ ทรัสส์ (Liz Truss) นายกรัฐมนตรีหญิงคนใหม่ของอังกฤษ จากผู้ต่อต้าน Thatcher สู่แกนนำพรรคอนุรักษนิยม
- รู้จัก เจเรมี ฮันต์ อดีตผู้ชิงเก้าอี้นายกฯ สู่ รมว.คลังอังกฤษคนล่าสุด ท่ามกลางความท้าทาย Perfect Storm
อ้างอิง: