อาจถือเป็นของขวัญรับเทศกาลคริสต์มาสที่รัฐบาลอังกฤษมอบให้ภาคธุรกิจในปี 2021 หลังสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดกลายพันธุ์โอไมครอนทำให้แนวโน้มที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวในช่วงปลายปีไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ งานนี้รัฐบาลอังกฤษจึงประกาศอัดงบประมาณมูลค่า 1,000 ล้านปอนด์ (ราว 44,000 ล้านบาท) เพื่อใช้เป็นเงินช่วยเหลือเยียวยาบรรดาธุรกิจห้างร้านทั่วประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของภาคการท่องเที่ยวและการบริการที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโอไมครอนให้สามารถยืนหยัดและอยู่รอดต่อไปได้
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอังกฤษ ริชี ซูนัก แสดงความมั่นใจว่า มาตรการใหม่นี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของบรรดาบริษัทกว่าหลายแสนแห่งทั่วประเทศอังกฤษในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ได้
สำนักข่าว AP รายงานว่า ภายใต้มาตรการใหม่นี้ บริษัทด้านสุขภาพ การพยาบาล การโรงแรม และการพักผ่อนในอังกฤษจะเข้าข่ายได้รับเงินช่วยเหลือบริษัทละ 6,000 ปอนด์สำหรับแต่ละสาขา โดยเงินส่วนนี้คิดเป็นมูลค่าเกือบ 700 ล้านปอนด์ของเงินช่วยเหลือทั้งหมด 1,000 ล้านปอนด์
นอกจากนี้รัฐบาลอังกฤษยังมีแผนจัดสรรงบในส่วนนี้มูลค่า 100 ล้านปอนด์ เพื่อมอบให้กับรัฐบาลท้องถิ่นที่จะนำงบในส่วนนี้ไปบริหารจัดการสนับสนุนช่วยเหลืออุตสาหกรรมในพื้นที่ชุมชนอย่างแท้จริง
ขณะเดียวกันทางกระทรวงการคลังอังกฤษระบุว่า เงินช่วยเหลือส่วนนี้ยังจะครอบคลุมถึงต้นทุนสำหรับลูกจ้างที่ลาป่วยเพราะโควิดให้แก่บริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมทั่วประเทศด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาคธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมจะแสดงความชื่นชมต่อแนวคิดเยียวยาของรัฐบาล กระนั้นนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า เงื่อนไขของการจัดสรรทุนในครั้งนี้แคบเกินไป และว่ารัฐบาลอังกฤษอาจจำเป็นต้องประกาศใช้นโยบายช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติม ถ้าหากยังไม่สามารถควบคุมสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ออกมาใหม่อย่างโอไมครอนได้
ความเคลื่อนไหวข้างต้นมีขึ้นหลังจากที่ ซูนัก รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอังกฤษได้จัดการประชุมฉุกเฉินกับผู้นำภาคธุรกิจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อหารือแนวทางเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ซึ่งครั้งนี้ทางภาคธุรกิจได้ส่งเสียงโอดครวญว่าชาวอังกฤษจำนวนมากพากันยกเลิกการจัดงานฉลองคริสต์มาส เนื่องจากวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ทำให้กระทบต่อรายได้ของเหล่าธุรกิจจำนวนมากโดยเฉพาะธุรกิจในภาคบริการ
การประกาศครั้งนี้ยังมีขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ กล่าวเมื่อวันจันทร์ (20 ธันวาคม) ที่ผ่านมาว่า กำลังพิจารณามาตรการต่างๆ ที่มีทั้งหมดเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโอไมครอนให้ได้ รวมทั้งอาจมีการกลับไปใช้มาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดบางอย่างที่เคยใช้แต่ยกเลิกไปแล้วในช่วงก่อนหน้า และรัฐบาลอังกฤษจะจับตาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิดเพื่อให้สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงที โดยรัฐบาลพร้อมที่จะตอบสนองต่อความเป็นไปได้ในทุกทาง
ในขณะที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิดกลายพันธุ์โอไมครอน โดยนายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ประกาศชัดเจนว่าญี่ปุ่นจะยังคงเดินหน้าบังคับใช้มาตรการควบคุมพรมแดนอย่างเข้มงวดต่อไปอีกสักระยะเวลาหนึ่ง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์โอไมครอน
ขณะเดียวกัน สื่อท้องถิ่นฉบับหนึ่งของญี่ปุ่นรายงานอ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลว่า ญี่ปุ่นจะขยายมาตรการห้ามนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไปถึงหลังสิ้นปีนี้
ความเคลื่อนไหวทั้งหมดส่งผลให้ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการควบคุมการเดินทางเข้าออกของชาวต่างชาติที่เข้มงวดที่สุดในโลก
นอกจากการคุมเข้มการเดินทางแล้ว ผู้นำญี่ปุ่นพร้อมด้วยสมาชิกสภาต่างอนุมัติรับรองงบประมาณพิเศษก้อนแรกของปีงบประมาณ 2021 ที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 317,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้รับมือกับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด โดยครอบคลุมตั้งแต่การจัดหายาและวัคซีน การช่วยเหลือครอบครัวที่มีบุตรหลานต้องดูแล การสนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และเงินอุดหนุนธุรกิจขนาดเล็กทั่วญี่ปุ่นให้สามารถขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้กับบรรดาลูกจ้าง หวังแก้ปัญหาค่าแรงต่ำที่ยืดเยื้อและเรื้อรังมานาน
อ้างอิง:
- https://apnews.com/article/coronavirus-pandemic-business-health-europe-public-health-518704a0a2cc3aa95b32284b52dac6bf
- https://www.channelnewsasia.com/asia/japan-covid-19-border-restrictions-omicron-travel-tourism-economy-budget-wages-2393701
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP