เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 มกราคม) ตามเวลาท้องถิ่น สำนักงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของสหราชอาณาจักร (MHRA) ได้อนุมัติการใช้งานวัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัท Moderna ภายในสหราชอาณาจักรแล้ว โดยระบุว่าเป็นไปตามการประเมินอย่างเข้มงวดและถี่ถ้วน โดยทีมนักวิทยาศาสตร์ของ MHRA และตามคำแนะนำของคณะกรรมการที่ให้คำปรึกษาด้านความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ทางเวชกรรมต่อรัฐมนตรี ซึ่งได้ตรวจสอบข้อมูลในเชิงลึกเพื่อยืนยันว่า วัคซีนดังกล่าวได้มาตรฐานด้านความปลอดภัย คุณภาพ และความมีประสิทธิภาพ นับเป็นวัคซีนชนิดที่ 3 ที่ได้รับอนุมัติให้ใช้งานในสหราชอาณาจักรต่อจากวัคซีนของ Pfizer-BioNTech และวัคซีนของออกซ์ฟอร์ด-AstraZeneca และก่อนหน้านี้ วัคซีนของ Moderna ได้รับอนุมัติให้ใช้งานในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาไปแล้ว
สหราชอาณาจักรได้สั่งซื้อวัคซีนดังกล่าวไว้ 7 ล้านโดส แต่สั่งเพิ่มอีก 10 ล้านโดสเพื่อให้เกิดการให้วัคซีนอย่างรวดเร็วที่สุด รวมเป็น 17 ล้านโดส อย่างไรก็ตาม คาดว่าวัคซีนจะแจกจ่ายได้จริงในฤดูใบใม้ผลิ หรือราวเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม และขณะนี้รวมแล้วสหราชอาณาจักรได้สั่งวัคซีนไว้ทั้งสิ้น 367 ล้านโดส รัฐมนตรีด้านการฉีดวัคซีนของสหราชอาณาจักรระบุว่า ภายในปลายสัปดาห์นี้จะมีสถานที่ฉีดวัคซีนกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้คนเข้าถึงวัคซีนได้ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม
ปัจจุบันมีประชากรในสหราชอาณาจักรได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดสราว 1.5 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้เองยังรวมถึงประชากรอายุเกิน 80 ปีกว่า 1 ใน 4 ของประเทศ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรตั้งเป้าว่าจะฉีดวัคซีนแก่ประชากรให้ได้อย่างน้อย 15 ล้านคนภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์ โดยผู้ที่จะได้รับวัคซีนก่อนได้แก่ผู้อาศัยและผู้ที่ทำงานในสถานดูแลผู้สูงอายุ, บุคลากรด่านหน้าด้านสาธารณสุขและด้านสังคม, ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป, ผู้ที่มีความเสี่ยงทางคลินิก อาทิ มีโรคประจำตัวบางโรคตามที่กำหนด รวมถึงผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 65 ปี แต่ให้การดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการเป็นปกติ หรืออาศัยในสถานพยาบาลระยะยาว หรือผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง และถูกบรรจุไว้ในรายชื่อของระบบสาธารณสุขแห่งชาติ (NHS)
วัคซีนของ Moderna เป็นชนิด mRNA เช่นเดียวกับวัคซีนของ Pfizer-BioNTech ซึ่งใช้ส่วนของรหัสพันธุกรรมของไวรัส เพื่อกระตุ้นการตอบสนองด้านภูมิคุ้มกัน และทำให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีมาต่อสู้กับไวรัส และเป็นวัคซีนที่ต้องฉีดสองโดส รัฐบาลสหราชอาณาจักรแนะนำว่า ให้เว้นระยะห่างระหว่างโดสที่ 28 วัน วัคซีนนี้สามารถถูกเก็บไว้ได้ที่อุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียสไม่เกิน 6 เดือน การทดสอบวัคซีนที่ผ่านมากับคนกว่า 30,000 คนพบว่า วัคซีนของ Moderna มีประสิทธิภาพใกล้เคียงร้อยละ 95 ในการป้องกันโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง แต่ยังไม่แน่ชัดว่าภูมิคุ้มกันนี้จะอยู่ยาวนานเพียงใด
ข้อมูลจากเว็บไซต์รัฐบาลสหราชอาณาจักร ณ วันที่ 8 มกราคม 2021 ระบุว่า การอนุญาตให้ใช้ในสหราชอาณาจักรดังกล่าวเป็นการอนุญาตให้ใช้วัคซีนกับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ส่วนหญิงตั้งครรภ์และหญิงที่ให้นมบุตรสามารถใช้งานวัคซีนนี้ได้ หลังจากให้กับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับประโยชน์และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเสียก่อน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหราชอาณาจักรแนะนำว่า วัคซีนนี้ควรถูกใช้ในหญิงตั้งครรภ์ก็ต่อเมื่อประโยชน์ที่เกิดจากการฉีดวัคซีนนั้น เมื่อพิจารณาแล้วมีน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยงต่อมารดาและบุตรในครรภ์เท่านั้น ส่วนผู้ที่มีประวัติแพ้ส่วนประกอบของวัคซีนไม่ควรรับวัคซีนชนิดนี้ แต่ผู้ที่มีอาการแพ้อื่น เช่น แพ้อาหาร สามารถรับวัคซีนนี้ได้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: