Uber ผู้ให้บริการร่วมเดินทางจากสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศความคืบหน้าของโปรเจกต์แท็กซี่บินได้ (เฮลิคอปเตอร์) Uber Air ออกมาแล้ว โดยเลือกเมลเบิร์นในประเทศออสเตรเลียเป็นเมือง Pilot City ทดสอบนำเครื่องขึ้นบินเหนือน่านฟ้าอย่างเป็นทางการแห่งที่ 3 ต่อจากดัลลัสและลอสแอนเจลิส ในสหรัฐฯ ที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้
Uber จะเริ่มทดสอบไฟลต์บินใน 3 เมืองดังกล่าวตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป ก่อนจะเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2023 เพื่อตั้งเป้าพัฒนาการเดินทางบนน่านฟ้าให้สะดวก ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (เครื่องยนต์ไฟฟ้าไร้เสียงรบกวน) และแก้ปัญหาการจราจรบนท้องถนนติดขัด
ที่สำคัญบริการเดินทางเหนือน่านฟ้านี้จะต้องมีราคาที่จับต้องได้ โดยเคลมว่า Uber Air หนึ่งลำจะรองรับผู้โดยสารได้ถึง 10 คน อัตราค่าบริการเทียบเท่ากับ UberX ในระยะทางที่เทียบเท่ากัน
ซูซาน แอนเดอร์สัน ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคของ Uber ในออสเตรเลียบอกว่ารัฐบาลออสเตรเลียทราบและตระหนักถึงความสำคัญของบริการไรด์แชร์ริงที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเดินทางในอนาคตเป็นอย่างดี ทั้งยังเปิดรับแนวคิดของไรด์แชร์ริงและเทคโนโลยีคมนาคมในอนาคต ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Uber เลือกเมลเบิร์นเป็นเมืองทดสอบ Uber Air แห่งที่ 3
“รัฐบาลของรัฐวิกทอเรีย ประเทศออสเตรเลีย สนับสนุนเราอย่างเต็มที่ พวกเรารอคอยที่จะได้ทำงานร่วมกับพวกเขาในฐานะพันธมิตรอย่างใกล้ชิดเพื่อทดสอบไฟลต์บินของ Uber Air ในระดับนานาชาติเป็นครั้งแรกในเมลเบิร์น”
ปัจจุบันมีการเปิดเผยว่า ปัญหารถติดทำให้ประเทศออสเตรเลียสูญเสียโอกาสทางรายได้มากถึงปีละประมาณ 16,500 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือราว 359,000 ล้านบาท โดยในปี 2030 คาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวอาจจะขยับขึ้นไปถึง 30,000 ล้านเหรียญออสเตรเลีย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: