×

ไทสัน ฟิวรี ชนะน็อก ไวล์เดอร์ ในยกที่ 7 คว้าแชมป์เฮฟวีเวต สภามวยโลก WBC ไปครอง

23.02.2020
  • LOADING...

ไทสัน ฟิวรี คว้าแชมป์เฮฟวีเวต สภามวยโลก WBC มาครองได้สำเร็จ หลังจากที่ไล่ต้อน ดีออนเตย์ ไวล์เดอร์ นักชกเจ้าของตำแหน่งชาวอเมริกันจนลงไปนับถึง 2 ครั้ง ก่อนที่กรรมการจะยุติการชกในยกที่ 7 

 

ศึกป้องกันตำแหน่งแชมป์มวยโลก สภามวยโลก WBC รุ่นเฮฟวีเวต เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เป็นการพบกันระหว่าง ดีออนเตย์ ไวล์เดอร์ แชมป์โลกชาวอเมริกัน พบกับ ไทสัน ฟิวรี นักชกเชื้อสายอังกฤษ 

 

โดยไฟต์นี้ ฟิวรีเป็นฝ่ายเริ่มเกมเดินหน้าเข้าใส่ตั้งแต่ยกแรกจนถึงยกที่ 3 ฟิวรียิงอัปเปอร์คัตเข้าเป้าตามด้วยหมัดชุดและปิดด้วยฮุกขวา ส่งไวล์เดอร์ลงไปนับครั้งแรกถึง 8 แต่ยังสามารถเอาตัวรอดมาได้ 

 

มาถึงยกที่ 5 ฟิวรีโดนหมัดเข้าลำตัวจนหล่นไปโดนนับ 8 อีกครั้ง ทำให้สถานการณ์ของแชมป์โลกชาวอเมริกันแย่ลงเรื่อยๆ ขณะที่ฟิวรีก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ เดินหน้าไล่ชกอย่างต่อเนื่อง

 

จนสุดท้ายในยกที่ 7 ไวล์เดอร์ซึ่งอยู่ในสภาพที่พร้อมล้มทุกเมื่อโดนฟิวรีออกหมัดตรงเข้าเป้าอย่างต่อเนื่อง จนทำให้กรรมการผู้ตัดสินเข้ามายุติการชก พร้อมกับทางฝั่งของไวล์เดอร์ตัดสินใจโยนผ้ายอมแพ้ ส่งผลให้ฟิวรีคว้าแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวต สภามวยโลก มาครองได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 2 พร้อมยัดเยียดความพ่ายแพ้ครั้งแรกให้กับไวล์เดอร์อีกด้วย 

 

ฟิวรีออกมาให้สัมภาษณ์หลังจบไฟต์ ยืนยันว่าจะมีการพบกับไวล์เดอร์เป็นครั้งที่ 3 อย่างแน่นอน 

 

“ผมเชื่อว่าจะมีไฟต์ที่ 3 ผมบอกทุกคนแล้วว่ายิปซีคิงจะกลับมา 

 

“ผมเป็นคนที่รักษาคำพูด ผมบอกไวล์เดอร์ ทีมของเขา และทั้งโลกว่าเราฝึกมาเพื่อน็อกเอาต์เท่านั้น ผมพูดแบบนี้เพราะผมสามารถทำได้จริง คนที่ไม่เชื่อผม พวกเขามองเห็นพุงอ้วนๆ และหัวล้าน และคิดว่าผมสู้ไม่ได้ 

 

“ผมเชื่อว่าไวล์เดอร์จะขอไฟต์ที่ 3 ผมรู้ว่าเขาเป็นนักรบ และผมจะรอเขา”

 

หลังจบการแข่งขัน แม้ว่าแฟนหมัดมวยหลายคนจะเริ่มพูดถึงไฟต์รีแมตช์เป็นครั้งที่ 3 แต่ทาง เอ็ดดี้ เฮิร์นส์ โปรโมเตอร์ของ แอนโทนี โจชัว อีกหนึ่งยอดนักชกชาวอังกฤษ ได้ทวีตข้อความสั้นๆ ระบุว่า “ไม่ต้องมีไฟต์ที่ 3 แล้ว เรามาลุยกันซัมเมอร์นี้เลยดีกว่า” 

 

โดยทางไวล์เดอร์มีเวลาตัดสินใจ 30 วันหลังจากนี้ว่าเขาต้องการที่ขึ้นชกไฟต์ที่ 3 กับฟิวรีหรือไม่ ตามข้อสัญญาที่ตกลงกัน 

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising