THE STANDARD สัมภาษณ์ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่รู้จักกันในนาม ‘หมอตุลย์’ ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง เริ่มเป็นที่รู้จักครั้งแรกตอนขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (คนเสื้อเหลือง) ปี 2549 ต่อมาเป็นแกนนำก่อตั้งกลุ่มเสื้อหลากสี ชุมนุมต่อต้านคนเสื้อแดงที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อปี 2553 ถูกเรียกว่ากลุ่ม ‘สลิ่ม’ และเรียกตัวเองเล่นๆ ว่า ‘เจ้าพ่อสลิ่ม’
ล่าสุดหมอตุลย์เคลื่อนไหวอีกครั้งเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566 โดยยื่นหนังสือถึงนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ให้ชี้แจงถึงการเข้ารักษาตัวของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยเห็นว่าควรเร่งรักษาและส่งตัวกลับไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ เนื่องจากตามกระบวนการที่จะขอพระราชทานอภัยโทษต้องติดคุกก่อน รวมทั้งขอให้โรงพยาบาลตำรวจขออนุญาตทักษิณและครอบครัวเปิดเผยข้อมูลการรักษาเพื่อให้สังคมรับทราบและคลายข้อสงสัย
หมอตุลย์มองตัวเองเป็น Active Citizen และยอมรับในถ้อยคำที่ถูกเรียกที่ว่า ‘สลิ่ม’ โดยให้ความหมายว่า สลิ่มคือคนที่จงรักภักดี รักษาความถูกต้องของบ้านเมืองจน ‘บัด Now’
หมอตุลย์มีข้อเรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูลสุขภาพของทักษิณ เพื่อนำไปสู่การเอาตัวกลับไปเรือนจำ ในขณะที่การเปิดเผยข้อมูลผู้ป่วยเป็นเรื่องอ่อนไหว
หมอตุลย์: ข้อมูลผู้ป่วยเป็นเรื่องเปิดเผยได้ถ้าได้รับอนุญาตจากผู้ป่วย หากผู้ป่วยไม่อนุญาต ทางโรงพยาบาลก็แจ้งว่าขอแล้ว แต่ตัวผู้ป่วยไม่อนุญาต
ผมอยากให้โรงพยาบาลพยายามมากกว่านี้ เพราะโรงพยาบาลก็ถูกกล่าวหา ถ้าผมเป็นผู้บริหารผมก็จะต้องขออนุญาตทักษิณ บอกว่าเนื่องจากทางโรงพยาบาลได้รับการสอบถามมาเยอะ แต่ถ้าจะแถลงเองก็ผิดกฎหมาย จึงขออนุญาตว่าจะขอแถลงแค่ไหน โอเคไหม ซึ่งต้องเป็นความจริงนะ
มองอย่างไรเรื่องสิทธิส่วนบุคคลของทักษิณกับเรื่องการเปิดเผยข้อมูลเพื่อประโยชน์สาธารณะ
หมอตุลย์: ต้องไปด้วยกันครับ คือถ้าโรงพยาบาลเปิดเผยเองก็ผิด ทักษิณก็ฟ้องร้องได้ แต่สุดท้ายหลายคดีเรื่องหมิ่นประมาทบุคคลสาธารณะก็ปรากฏว่ามีการยกฟ้อง
ถ้าโรงพยาบาลไม่อยากถูกฟ้องก็ต้องแถลง เพราะไม่อย่างนั้นสาธารณะก็จะกล่าวหาว่าโรงพยาบาลกำลังช่วยเหลือให้ทักษิณอยู่สุขสบายใช่ไหม ถ้าทักษิณอยู่วอร์ดสามัญใครจะไปว่าอะไร ป่วยก็ป่วยดิครับ
แต่พอทักษิณอยู่วอร์ดพิเศษวีไอพี คนอื่นจะไม่รู้สึกอะไรเหรอ ถามว่าผมยอมแค่ไหน ผมมองว่ารักษาให้หายแล้วไปอยู่แดน 7 เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ไม่ต้องเข้าคุก อยู่แดน 7 ก็คือห้องรักษาพยาบาลราชทัณฑ์ ก็ทำไปสิครับ อย่างนั้นจะดูเหมาะสมที่สุด
สิ่งที่หมอตุลย์รู้สึกยอมไม่ได้คืออะไร
หมอตุลย์: ทักษิณยังไม่ได้รับโทษในเรือนจำแม้แต่วันเดียว จะขอพระราชทานอภัยโทษได้อย่างไร คนอื่นเขาติดคุกยากลำบากตั้งนาน จึงจะขอพระราชทานอภัยโทษได้
ถ้าไม่ใช่ทักษิณจะได้รับการปฏิบัติแบบนี้เหรอ ผมมองว่าโรงพยาบาลทำไม่ถูก กระบวนการทำไม่ถูก คุณทำโดยเอื้อให้ทักษิณใช่หรือไม่ ทำให้ระบบผิดเพี้ยน การขอพระราชทานอภัยโทษก็เช่นกัน
กรณีทักษิณผมสงสัยว่ามีการกำลังกล่าวอ้างใช้ความเท็จ เพราะคนที่ป่วยในลักษณะนี้ก็อยู่ในคุกเยอะแยะ อย่างเช่น กรณี ‘อากง SMS’ ทำไมไม่รักษาเขา แต่ปล่อยตายคาคุก ทนายความอากงได้ทำเรื่องขอให้นำอากงรักษาข้างนอกหรือไม่ เพราะฉะนั้นบอกได้เลย มีการเลือกปฏิบัติ
หลักการที่ต้องการรักษาไว้
หมอตุลย์: ถ้าเจ็บป่วยก็รักษาที่ราชทัณฑ์ ถ้าไม่เจ็บป่วยก็อยู่แดนปกติ ถ้าเจ็บหนักก็มาโรงพยาบาลตำรวจ รักษาเสร็จก็รีบกลับ อย่าวินิจฉัยเกินจริงว่าป่วยหนัก ใช้ความหนักมาเป็นข้ออ้างในการออกนอกคุก เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
แล้วเกี่ยวกับการแพทย์ด้วยนะ ถ้าอาการเบาแล้วบอกว่าอาการหนัก ยกตัวอย่าง ถ้าผมไปเซ็นใบรับรองแพทย์ว่าอาการหนัก ก็เป็นเรื่องทุจริตนะครับ ใบรับรองแพทย์เป็นเท็จ เพราะอาการไม่ได้หนักจริง
ถ้าอาการหนักจริงคุณต้องไม่ให้ใครเยี่ยมสิ คนไข้อาการหนักจริงมีใครได้เยี่ยมบ้าง ต่อให้คนที่ไม่ใช่นักโทษนะ คนไข้อาการหนักนี่เขาห้ามเยี่ยมนะ ลองไปขอเยี่ยมคนไข้อาการหนักดูสิ
เป็นเพราะฝ่ายอนุรักษนิยมเกี้ยเซียะกับทักษิณ จึงทำให้อดีตนายกฯ ทำได้แบบนี้หรือไม่ คุณหมอตุลย์จะตำหนิฝ่ายอนุรักษนิยมด้วยไหม
หมอตุลย์: ก็ต้องพิสูจน์มา การกล่าวหาทำได้ แต่ต้องพิสูจน์ เหมือนการบอกว่านาฬิกาเพื่อนลุงป้อม (พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ) สลิ่มจะไม่ชอบป้อมนะ แล้วไม่พอใจลุงตู่ (พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ว่าทำไมต้องใช้ป้อมด้วย ทำไมต้องใช้ วิษณุ เครืองาม ด้วย
พูดเลยสลิ่มไม่ชอบสองคนนี้ เพราะรู้สึกว่าทำให้รัฐบาลลุงตู่เสื่อมเสีย ไม่ชอบแป้งด้วย (ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า)
‘วิษณุ-ป้อม-แป้ง’ สลิ่มเราไม่ชอบเลย แล้วอีกคนที่ไม่ชอบคือ สมศักดิ์ เทพสุทิน เพราะไปแก้ระเบียบการลดโทษ ขอพระราชทานอภัยโทษมากมาย บุญทรง เตริยาภิรมย์ ศาลพิพากษาจำคุก 40 กว่าปี ติดไม่นานจะออกจากคุกแล้ว
ประเมินรัฐบาลใหม่อย่างไร
หมอตุลย์: ก็ต้องให้โอกาสเขาทำงานก่อนแล้วว่ากันตามเนื้อผ้า ถ้าทำอะไรที่รับไม่ได้ เช่น แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เราก็คัดค้านรัฐบาล
รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับรัฐบาล พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผมก็ไปประท้วงมาหมดแล้ว รัฐบาล พล.อ. สุรยุทธ์ ตอนนั้นเขาไม่ตรวจสอบทักษิณ แล้วเกียร์ว่างเลย ส่วนรัฐบาลอภิสิทธิ์ผมไปประท้วงเรื่องรถเมล์กับมอเตอร์เวย์
ล่าสุดหมอตุลย์แบ่งขั้วทางการเมืองอย่างไร เพราะตอนนี้คนเสื้อแดงที่เป็นผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยบางส่วนย้ายไปสนับสนุนพรรคก้าวไกล เพราะมองว่าทักษิณเกี้ยเซียะกับฝ่ายอนุรักษนิยม
หมอตุลย์: ถ้านักการเมือง หรือ สส. พรรคเพื่อไทย จะข้ามขั้ว เขาไม่ไปพรรคก้าวไกล แต่เขาจะไปพรรคภูมิใจไทยหรือไปพรรคพลังประชารัฐ แต่ถ้ากองเชียร์ที่ผิดหวังจากพรรคเพื่อไทยก็จะไปเชียร์พรรคก้าวไกล ต้องแยกกันระหว่าง สส. กับกองเชียร์
แล้วผมอยากย้อนอดีตให้ฟังสำหรับคนที่บอก “เบื่อลุงตู่” เพราะติดตามแต่กระแสโซเชียลหรืออะไรก็ตามนะ ผมอยากบอก “หลานๆ เอ๊ย ผมเนี่ยเคยเบื่อประชาธิปัตย์ แล้วเลือกทักษิณ แล้วเป็นไงตอนนี้”
ผมบอกเลย แมวสีอะไรก็ได้ ขอให้จับหนูได้ เหมือนที่เติ้งเสี่ยวผิงพูดไว้ อย่างพรรคก้าวไกลถ้าไม่แตะมาตรา 112 ไม่ล้มล้างสถาบัน แล้วตามจิกทุจริตจริง ผมรับได้นะ
อะไรที่น่ากลัวที่สุดของก้าวไกล ผมมองว่าคือนโยบายอิงอเมริกาแทรกแซงพม่า อันนี้น่ากลัวที่สุด เพราะหมายความว่าเราต้องทะเลาะกับจีน ทั้งที่จริงๆ เราต้องคบกับทั้งคู่นะ ในความเห็นส่วนตัวผมมองเรื่องนี้มากที่สุด
คุณหมออาจถูกแซวว่าดู Top News มากไปหรือเปล่านะคะ
หมอตุลย์: ผมไม่ค่อยได้ดู Top News ได้ดูเฉพาะตอนเขามาสัมภาษณ์ผม (หัวเราะ)
ตอนนี้ได้รัฐบาล ‘ข้ามขั้ว’ หรือ ‘สลายขั้ว’ แล้ว ขั้วทางการเมืองไม่ชัดเจน แล้วหมอตุลย์ยังมีจุดยืนคงเดิมอย่างในอดีตหรือไม่
หมอตุลย์: เหมือนเดิมครับ ที่ถามว่าสลิ่มคืออะไร คำตอบก็คือว่าเรารักความถูกต้อง อะไรที่ไม่ถูกต้องเราก็ต้องคัดค้าน ส่วนเรื่องปกป้องสถาบันเป็นชีวิตจิตใจของสลิ่มอยู่แล้วครับ
สิ่งที่ไม่ถูกต้อง เช่น หากจะมีการขอพระราชทานอภัยโทษเราก็คัดค้าน เราก็อาจจะเสนอบอกว่าใช้กระบวนการแบบกลุ่มคือ ต้องรับโทษมาจำนวนหนึ่ง แล้วค่อยลดโทษ หรือพอถึงอายุหนึ่งก็ติดกำไล EM อยู่บ้าน ผมว่าก็สมเหตุสมผล
ส่วนเรื่องขั้วการเมือง พวกผมเองก็ไม่อยากให้ลุงตู่ (พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา) พรรครวมไทยสร้างชาติและพลังประชารัฐ ไปร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคก้าวไกล
ยิ่งพรรคก้าวไกลยิ่งหนักเลย แต่ว่าเมื่อหวยล็อก เรื่องของจำนวนเสียงในสภาในการตั้งรัฐบาลจะผ่านเกณฑ์ได้ต้องเป็นแบบนั้น แล้วต้องมี สว. ช่วยด้วย เราก็ต้องยอมรับ
เดี๋ยวก็ไปดูกันข้างหน้า แต่ก้าวไกลเราไม่เอาแน่ อันนั้นมันชัดเจนเกินไปว่าล้มล้างสถาบันแน่ ตอนนั้นเราก็รู้ลึกๆ นะว่าทำไมก้าวไกลไม่แสดงฝีมือโดยการยกเลิกเรื่อง มาตรา 112 ไว้ชั่วคราว แล้วแสดงฝีมือไปสิ เรายังลุ้นเลยว่าเขาควรจะดูแลเรื่องปากท้องประชาชน เพราะ 4 ปีแรกหลังเลือกตั้ง 2562 คุณไม่ดูแลปากท้องประชาชนเลย คุณดูแลแต่ม็อบ
4 ปีที่ผ่านมา สมัยที่แล้วก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน
หมอตุลย์: แต่เขาก็ดูแลแต่ม็อบจริงๆ นะ ตอนมีเหตุไฟไหม้ที่กิ่งแก้วก็มีการแฉว่า เพื่อไทยและก้าวไกลเป็นฝ่ายที่ไม่ให้ซื้อเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิง ทั้งที่เป็นเรื่องของประชาชน
ถ้าเขาจะไม่ให้ซื้ออาวุธ ก็ดูตามความจำเป็น ถ้าค้านซื้อรถปราบม็อบ เราก็เข้าใจ
แต่เฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงนี่ไม่ใช่แล้ว เขาไม่ควรค้าน
เราอยากเห็นการทำงาน แล้วสิ่งที่ก้าวไกลเสนอทั้งความไม่เท่าเทียม ความเหลื่อมล้ำ เรื่องทุจริต หรืออะไร นี่คือปัญหาที่เราก็สนใจมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่รุ่นเราหรือรุ่นก่อนเราด้วยซ้ำไป มีความพยายามจะแก้แต่แก้ไม่ง่ายมาตลอด
ผมยังไม่รู้ ถ้าก้าวไกลขึ้นมาจะแก้ปัญหานี้อย่างไร เพราะคำว่า ‘เหลื่อมล้ำ’ มีมาตลอด ไม่มีใครคิดจะแก้จริงจัง แต่คำว่าเหลื่อมล้ำถูกใช้เพื่อด่าคนอื่น ด่านายทุน ด่าคนที่อิงนายทุน ด่าฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง แล้วเบื้องหลังพรรคก้าวไกลน่ะ ไม่มีนายทุนเหรอ?
แบ่งขั้วใหม่ในมุมหมอตุลย์
หมอตุลย์: มีฝ่ายประชาชนที่รักสถาบันแน่ๆ แล้วแม้แต่ยุคลุงตู่เราก็หงุดหงิดนะว่าท่านจัดการกลุ่มคิดล้มล้างสถาบัน โดยมีการจัดการที่หน่อมแน้มมากเลย แล้วก็ไม่ยืนหยัดเท่าที่ควร จัดการน้อยมาก ไม่อย่างนั้นจะมีหยก มีทะลุวัง ออกมาทำกิจกรรมได้อย่างไร ติดคุกแล้วก็ประกันตัวออกมาทำผิดอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทะลุวังก็ไปบุกทะลุพรรคเพื่อไทยด้วย
หมอตุลย์: คิดว่านั่นเป็นความเห็นโดยอิสระอย่างนั้นเหรอ เช่นเดียวกับตอนที่หยกปีนโรงเรียน แล้วเรื่องมาจบตอนที่บอกว่าเป็นนโยบายก้าวไกลไม่ใช่เหรอ เท่านั้นแหละ ทุกคนโดนทิ้งหมดเลย
ผมมองไม่เห็นเลยว่าเด็กกลุ่มนี้มีอุดมการณ์อะไร ทะลุวังก็โดน พลอย แคนาดา แฉแล้ว ใครเป็นคนจ่ายเงินให้เด็กๆ กลุ่มนี้ หลายๆ คนไม่ใช่คนฐานะดี
สังเกตไหมหลายคนรูปร่างหน้าตาไม่ดี เพราะฉะนั้นเด็กเก่งแต่ไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร แล้วมีกลุ่มการเมืองไปเลือกเยาวชนกลุ่มนี้มาสนับสนุนพวกเขา แล้วคนที่ดึงเยาวชนไปสนับสนุนตัวเองคือคณะก้าวหน้า ผมสืบละเอียดนะครับ ผมไม่ได้กล่าวหา
ขณะที่เยาวชนที่เรียนเก่ง รูปร่างหน้าตาดี เขาก็จะได้รับคำชม เขามี Self-Esteem อยู่แล้ว
ถ้าจะมองใครเป็นกลุ่ม ‘ขบวนการล้มเจ้า’ ตอนนี้หมอตุลย์จับตากลุ่มไหนอันตรายที่สุดหากต้องแบ่งเป็นเฉด
หมอตุลย์: คณะก้าวหน้า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, ปิยบุตร แสงกนกกุล ทั้งล้มเจ้าและแบ่งแยกดินแดนครบเลย นั่นตัวจริง อิงอเมริกาด้วย โอกาสเป็นแบบนั้นสูง อิงอเมริกาชัดเจน อยากให้อเมริกาเข้ามาร่วมด้วย
ใครกล้าพูดว่าพรรคก้าวไกลเป็นอิสระจากคณะก้าวหน้าบ้าง ใครเชื่อว่าเป็นอิสระจริงก็โง่แล้ว
เฉดรองลงมาคือพรรคเพื่อไทยและเสื้อแดง แม้จะมีการตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ, พลังประชารัฐ และภูมิใจไทย แล้วก็ตาม
นอกจากนั้นก็มีพวกอาจารย์มหาวิทยาลัย ซึ่งพวกนี้เขาฉลาด แอบอยู่หลังเด็ก
พอมีพรรคก้าวไกลขึ้นมาแล้ว ทำให้ทักษิณดูเป็นฝ่ายอนุรักษนิยม ดูมีความจงรักภักดีมากกว่าเดิมไหมในมุมของหมอตุลย์
หมอตุลย์: ผมไม่ไว้ใจทักษิณอยู่ดี ทักษิณเขาอยากเป็นใหญ่ เขาเคยพูดว่า “ถ้ากระซิบข้างหูผมก็ลาออกแล้ว” หรือตอนไปนั่งทำบุญในวัดพระแก้ว การดูคน ดูครั้งเดียวมันดูลำบากนะ แต่ถ้าดูละเอียดต่อเนื่องก็จะมองเห็น