“สิ้นปี ถ้าไม่ดีขึ้นก็ต้องเลิก” เจ้าของอู่รถตุ๊กตุ๊กประกาศสู้ถึงแค่สิ้นปี หลังแบกรับภาระขาดทุน

วันนี้ (8 มิถุนายน) สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยที่ระบาดในระลอกเดือนเมษายน 2564 ยังไม่มีท่าทีว่าจะคลี่คลาย ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงทรงตัวมาตลอดช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ความหวังที่หยุดยั้งการแพร่ระบาดในครั้งนี้อยู่ที่การฉีดวัคซีน ซึ่งเมื่อวานนี้ (7 มิถุนายน) ถือเป็นวันแรกของการเริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการระบาดสูงอย่างกรุงเทพมหานคร

THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจอู่เช่ารถสามล้อย่านรองเมือง รถสามล้อหรือที่เรียกกันว่า ‘ตุ๊กตุ๊ก’ ซึ่งที่อู่สมศักดิ์มีรถตุ๊กตุ๊กให้เช่าอยู่เกือบ 60 คัน ทว่าตอนนี้รถตุ๊กตุ๊กต้องจอดเป็นแถวเรียงราย เนื่องจากมีผู้มาเช่าเพียง 5-6 คันต่อวันเท่านั้น ขณะที่เจ้าของอู่ระบุว่า สถานการณ์ค่อนข้างย่ำแย่ ต้องพยายามลดรายจ่ายให้ได้มากที่สุด ส่วนรายได้ปัจจุบันก็ไม่สามารถครอบคลุมรายจ่ายได้ ดังนั้น หากสิ้นปีนี้สถานการณ์ยังคงเป็นอย่างนี้ก็ต้องตัดสินใจเลิกกิจการ เพราะคงสู้ต่อไปไม่ไหวแล้ว

ขณะที่ผู้ขับขี่รถตุ๊กตุ๊กรายหนึ่งที่มีรถเป็นของตัวเองเปรยกับเราว่า ตนขับขี่รับ-ส่งผู้โดยสารอยู่ย่านเยาวราช ซึ่งก็ถือเป็นย่านที่มีลูกค้าที่มาเดินท่องเที่ยวรับประทานอาหารในย่านนี้อยู่ตลอด แต่ตอนนี้รายได้ลดลงไปกว่าครึ่ง จากช่วงปกติที่มีรายได้อยู่ประมาณวันละ 1,500 บาท

เสียงของประชาชนทั่วไปและผู้ประกอบการที่กำลังเดินอยู่ทางแยกสำคัญว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ในหลายๆ กิจการ ซึ่งบางกิจการได้ผลกระทบมากน้อย สาหัสไม่แตกต่างกันไป ยิ่งไปกว่านั้นคือกิจการที่ถูกสั่งปิดและยังรอคอยความหวังกลับมาเปิดอีกครั้ง ซึ่งไม่รู้ว่าจะสามารถยืนระยะไปได้อีกนานแค่ไหน หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังคงเป็นแบบที่เป็นอยู่ หลายคนเลือกที่จะหยุดแล้วกลับมาสู้กันใหม่ในวันที่พร้อมอีกครั้ง