สื่อทางการของเวียดนามรายงานว่า Truong My Lan นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ ถูกศาลในนครโฮจิมินห์ตัดสินโทษประหารชีวิต ด้วยข้อหายักยอกทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4 แสนล้านบาท) ซึ่งถือเป็นคดีฉ้อโกงทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ศาลระบุในคำตัดสินว่า My Lan วัย 67 ปี ได้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงและส่งผลกระทบอย่างหนัก โดยไม่มีความเป็นไปได้ในการกู้คืนเงินที่สูญหาย การกระทำของเธอยังสั่นคลอนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐ
My Lan ผู้ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Van Thinh Phat Group ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานติดสินบน ยักยอกทรัพย์ และใช้อำนาจในทางที่ผิด หลังจากการพิจารณาคดีที่เริ่มขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว โดย My Lan ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด ทนายความของเธอยืนยันว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน
My Lan ถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินจำนวน 304 ล้านล้านดองเวียดนาม (1.2 หมื่นล้านดอลลาร์) จากธนาคาร Saigon Joint Stock Commercial Bank (SCB) โดยใช้บริษัทนอมินีกว่า 1,000 แห่งในการกู้เงิน และจ่ายสินบนหลายล้านดอลลาร์ให้กับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง
นอกเหนือจาก My Lan แล้วยังมีผู้ต้องหาอีก 85 คนในคดีนี้ ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางด้วย ทางการระบุว่า SCB ได้ปล่อยกู้มูลค่ากว่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท) ให้กับ Van Thinh Phat และบริษัทอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ My Lan ระหว่างปี 2012-2022 คิดเป็น 93% ของยอดสินเชื่อทั้งหมดที่ธนาคารปล่อยออกมา SCB ถูกธนาคารกลางเข้าควบคุมกิจการหลังจาก My Lan ถูกจับกุม
ข้อกล่าวหาทุจริตต่อ My Lan ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามคอร์รัปชันครั้งใหญ่โดยพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งส่งผลให้การอนุมัติโครงการของรัฐบาลล่าช้า และสร้างความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศที่กำลังเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
ในเดือนมีนาคม Vo Van Thuong ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีเวียดนามหลังจากดำรงตำแหน่งเพียงปีเดียว จากเหตุ ‘การละเมิด’ และ ‘ข้อบกพร่อง’ ที่ไม่ระบุรายละเอียด ก่อนหน้านี้ Nguyen Xuan Phuc ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีก่อนหน้า Thuong ได้ลาออกในเดือนมกราคม 2566 ท่ามกลางการปรับเปลี่ยนตำแหน่งสำคัญของรัฐบาลที่ส่งผลให้รองนายกรัฐมนตรีสองคนพ้นจากตำแหน่งเช่นกัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลหลายร้อยคนถูกจับกุมจากการปราบปรามนี้
การที่รัฐบาลขยายขอบเขตการตรวจสอบมาถึงภาคเอกชนได้เพิ่มความไม่แน่นอนเข้าไปอีก การจับกุม My Lan ในปี 2565 ก่อให้เกิดการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์และการออกตราสารหนี้ภาคเอกชน
ทั้งนี้ My Lan มาจากหนึ่งในครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดของเวียดนาม และเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริต นับตั้งแต่เริ่มมีการปราบปราม
เวียดนามเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางชั้นนำของบริษัทข้ามชาติที่กำลังกระจายฐานการผลิตออกจากจีน ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐฯ ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้มีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไหลเข้าแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.66 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท) ในปีที่แล้ว
แต่การปราบปรามคอร์รัปชันกลับลดทอนเสน่ห์บางส่วนของเวียดนามลง ขณะนี้เจ้าหน้าที่รัฐลังเลที่จะอนุมัติใบอนุญาตและโครงการต่างๆ เพราะเกรงว่าจะถูกตรวจสอบ จนนำไปสู่สิ่งที่นักวิเคราะห์เรียกว่า ‘ภาวะอัมพาตของระบบราชการ’
อ้างอิง: